กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวต้อนรับปี 2020 เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวกรณี คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn) อดีตซีอีโอของบริษัท Nissan สัญชาติฝรั่งเศส เลบานอน และบราซิล วัย 65 ปี ได้หลบหนีคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในญี่ปุ่นเดินทางกลับไปยังประเทศเลบานอนแล้ว โดยมีผู้พบเห็นเขาปรากฏตัวที่งานฉลองวันขึ้นปีใหม่ในเลบานอนเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าตัวจะปล่อยแถลงการณ์สั้นๆ และเตรียมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในวันพุธที่ 8 มกราคมนี้
ก่อนหน้านี้กอส์นตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการแจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริง นำทรัพย์สินของบริษัทไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ฯลฯ โดยถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายน 2018 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์กว่า 1 พันล้านเยน และรอรับฟังผลการพิจารณาคดี
กอส์นได้เปิดใจผ่านแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้แบบรวบรัดว่า “ผมจำเป็นต้องหนีจากกระบวนการที่ไม่เป็นธรรมและการข่มเหงกลั่นแกล้งโดยมีนัยซ่อนเร้นทางการเมือง”
ด้านทนายความของกอส์น จูนิจิโระ ฮิโรนากะ (Junichiro Hironaka) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในญี่ปุ่นว่า การหลบหนีของกอส์นสร้างความประหลาดใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก “ผมอยากจะถามเขาว่า เขาทำอย่างนี้กับเราได้อย่างไร”
สถานีโทรทัศน์ Murr Television หรือ MTV ในเลบานอนเปิดเผยข้อสันนิษฐานเบื้องหลังการหลบหนีคดีสุดอื้อฉาวในครั้งนี้ โดยเชื่อว่ากอส์นได้รับการช่วยเหลือโดยกลุ่มกำลังกึ่งทหาร (Paramilitary) ที่แฝงตัวมาอยู่ในกลุ่มนักดนตรีที่ได้รับการว่าจ้างให้เดินทางมาแสดงแบบปิดที่บ้านพักที่ใช้คุมขังเขา
ทันทีที่การแสดงจบลง กอส์นได้ซ่อนตัวในกล่องไม้เก็บเครื่องดนตรีขนาดใหญ่ (ความสูงของกอส์นคือ 167 เซนติเมตร) และเดินทางออกจากสนามบินคันไซไปยังประเทศตุรกีด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วจึงบินจากตุรกีกลับไปยังเลบานอนเมื่อวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่หนังสือเดินทาง 3 เล่มของเขา (เลบานอน, ฝรั่งเศส และบราซิล) ยังอยู่กับทนายความในญี่ปุ่น
โฆษกประจำตัวของกอส์นให้ข้อมูลกับสำนักข่าว Financial Times ว่า กอส์นถือหนังสือเดินทางของฝรั่งเศสระหว่างเดินทางเข้าประเทศเลบานอน แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเขาได้หนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวมาได้ด้วยวิธีการใดกันแน่
อย่างไรก็ดี ภรรยาของเขา แครอล กอส์น (Carole Ghosn) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่า รายงานการหลบหนีของกอส์นที่แอบซ่อนในกล่องเก็บเครื่องดนตรีเป็นแค่ ‘เรื่องแต่ง’ เท่านั้น แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ เพิ่มเติมว่ากระบวนการที่แท้จริงเบื้องหลังเหตุการณ์นี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังอย่างไรกันแน่ บอกเพียงแค่ว่าการได้กลับมาพบหน้าสามีของเธออีกครั้งเปรียบเสมือน ‘ของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ’
ขณะที่หนังสือพิมพ์ Le Monde ในฝรั่งเศสชี้เป้าว่า แครอลคือหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังแผนการหลบหนีจากญี่ปุ่นในครั้งนี้ สอดคล้องกับข้อมูลจาก Wall Street Journal นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกด้วยว่าแผนการทั้งหมดถูกวางไว้อย่างแยบยลและมีการเตรียมการมานานกว่าหลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน
ประเด็นที่น่าติดตามต่อจากนี้ก็คือ กระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นจะดำเนินการกับคดีของกอส์นต่อไปอย่างไร ในเมื่อทั้งญี่ปุ่นและเลบานอนต่างไม่มีสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งนี่อาจจะเป็นช่องโหว่ที่ทำให้คดีของอดีตซีอีโอค่ายรถยนต์ชื่อดังวัย 65 ปีอันตรธานหายไปอย่างไร้บทสรุป
ซ้ำร้าย ในระหว่างนี้กอส์นยังได้รับการคุ้มครองอารักขาความปลอดภัยแบบครบสูตรจากรัฐบาลเลบานอน โดยภาพลักษ์และชื่อเสียงของเขาในเลบานอนก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอีกด้วย นั่นจึงทำให้การเข้าถึงตัวอดีตประธานกรรมการบริหารค่ายรถยนต์ Nissan ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับทางการญี่ปุ่น
ที่สำคัญคือการที่ญี่ปุ่นซึ่ง ณ เวลานี้ยังเลือกที่จะไม่ให้ความเห็นใดๆ กับสื่อมวลชน จะต้องตอบคำถามให้ได้ด้วยว่า เพราะเหตุใดกอส์นจึงสามารถหลบหนีออกจากระบบการรักษาความปลอดภัยและการตรวจคัดกรองที่ด่านตรวจคัดคนเข้าออกประเทศได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- uk.reuters.com/article/uk-renault-nissan-ghosn-lebanon/ghosn-met-lebanese-president-after-fleeing-japan-sources-idUKKBN1Z01WH
- www.theguardian.com/world/2020/jan/02/carlos-ghosn-prepares-to-speak-as-japan-comes-to-terms-with-saviour-who-fled
- asia.nikkei.com/Business/Nissan-s-Ghosn-crisis/Ghosn-said-to-flee-Japan-hidden-in-musical-instrument-case
- www.ft.com/content/023792fe-2cbd-11ea-bc77-65e4aa615551
- www.bbc.com/news/world-50964040