https://www.youtube.com/watch?v=BFLaUvp3-q4&feature=youtu.be
“สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราแก้ไขด้วยตัวเองตลอดมา เรากดแตร เปิดประตู ให้คนช่วยดันรถ เรียกรถก็ไม่มีใครมา มีการล็อกเกียร์ เราเดือดร้อน แจ้งไปหมดแล้ว เราก็ต้องใช้สิทธิอันชอบธรรม เพื่อให้สิ่งกีดขวางนี้ออกไปให้ได้ ซึ่งวันพักผ่อนเสาร์-อาทิตย์ก็ยังมีการทำตลาด คนที่จอดรถต้องมีจิตสำนึก ป้ายก็มีติดไว้ คุณมากล่าวหาว่าบ้านร้าง ถูกบังคับคดีได้ยังไง”
เจ้าของบ้านที่ก่อเหตุทุบรถที่จอดขวางหน้าบ้าน ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า สวนหลวง แถลงเปิดใจกับสื่อมวลชนที่บริเวณหน้าบ้าน เมื่อ 10.00 น. ของวันนี้ หลังมีการเผยแพร่คลิปในโลกออนไลน์ กรณีเจ้าของบ้านใช้ขวานทุบรถกระบะสีขาวที่จอดขวางทางเข้าออก กระทั่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
การตั้งโต๊ะแถลงข่าวครั้งนี้นำโดยนางสาวบุญศรี แสงหยกตระการ พร้อมด้วยสมาชิกในบ้านที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว และเพื่อนบ้านในละแวกที่ได้รับความเดือนร้อนร่วมกันแถลง โดยระบุว่า ในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ตนเองจะออกไปทำธุระนอกบ้าน แต่ออกไม่ได้ ได้พยายามทุกวิถีทางแล้ว รอนานกว่าชั่วโมงก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็แล้ว ไม่ว่าจะเป็น 191 หรือ 155 จึงขอใช้สิทธิโดยชอบธรรมที่จะเอาสิ่งกีดขวางออก ขณะที่เจ้าของรถที่ถูกทุบเมื่อมาถึงก็ไม่ได้แสดงออกซึ่งความรับผิดชอบด้วย
เจ้าของบ้านบอกอีกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เเค่เรื่องของการจอดรถขวางหน้าบ้านที่สร้างความเดือดร้อนเท่านั้น ที่ผ่านมาเราได้ฟ้องร้องต่อศาล ต่อสู้มาเกือบ 10 ปี ซึ่งพื้นที่นี้เป็นที่ดินจัดสรรเพื่อการที่อยู่อาศัย แต่เหตุใดจึงมีการอนุญาตให้สร้างตลาดขึ้นมาได้ ขณะนี้ศาลปกครองกลางก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว แต่สำนักงานเขต หรือ กทม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้ามาดูแลตรงนี้ บ้านเราถูกขนาบด้วยตลาดและพื้นที่จอดรถ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้เราอย่างหนัก ปัญหาด้านสาธารณูปโภค ปัญหาการจราจร การจอดรถขวางทางเข้าออก
“เหตุดังกล่าวไปเรียกเก็บจากผู้ว่าฯ กรุงเทพ ผอ.เขตประเวศ เพราะได้รับความเดือดร้อน และพื้นที่ดังกล่าวศาลก็คุ้มครอง เจ้าของรถคันที่จอดขวางก็บอกว่าได้ยินเสียงแตร แต่ไม่มาขยับรถ โดยกดแตรเป็นเวลานานเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีคนมาขยับรถ นี่คือการปกป้องสิทธิ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ” เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวยืนยัน เมื่อถูกสื่อมวลชนถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นคิดว่าตนเองผิดหรือไม่ และจะยอมชำระค่าเสียหายให้กับรถคันที่ถูกทุบหรือไม่อย่างไร
ขณะเดียวกันได้ชี้แจงด้วยว่า กรณีที่สื่อออนไลน์มีการอ้างว่าก่อนหน้านี้ที่บ้านเคยมีปัญหาไม่สามารถนำคุณพ่อไปส่งโรงพยาบาลได้เนื่องจากมีรถจอดขวางว่า เรื่องดังกล่าวจริงครึ่งเดียว เพราะที่จริงแล้วคือคุณแม่ที่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อย และครั้งหนึ่งไม่สามารถพาไปหาหมอได้ จนต้องตัดสินใจให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล กระทั่งในเวลาต่อมาท่านได้เสียชีวิตแล้ว
“ยืนยันว่าเราไม่ได้มีปัญหากับตลาด เราต้องการแจ้งและร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่เราทำ เพราะคุณไม่สามารถมาปิดกั้นทางออกบ้านเราได้ ขอย้ำอีกครั้งว่าเราได้ทำทุกวิถีทางแล้ว
“เราอยู่ในพื้นที่จัดสรรเพื่ออยู่อาศัย ผู้ที่มากีดขวางเราคือผู้บุกรุก จะให้ทำอย่างไร ทุกคนยืนดูเรากดแตรตั้งนาน เราไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เราต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ถ้าเป็นบ้านคุณ คุณจะทำอย่างนี้เหรอ คนที่ยืนดูพวกตลาดก็ไม่มีใครสนใจเลย ก่อนที่จะทำ ทำทุกอย่างแล้ว มันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่เราต้องทำลงไป”
ขณะที่กรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ได้ออกหมายเรียกให้ นางสาวรัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และ นางสาวราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี บุคคลในคลิปมารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุอันควร
ด้านสมาชิกในบ้านคนหนึ่งเปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า หลังมีกระแสข่าว ได้มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาที่บ้านเพื่อขอให้มีการประนีประนอม แต่ในขั้นต้นขอให้ดำเนินการเก็บแผ่นป้ายที่ติดอยู่หน้าบ้านออกทั้งหมดก่อน
