วันนี้ (21 พฤษภาคม) ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย สมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน พร้อมผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับกัญชา เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้าน ‘กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5’ โดยมี ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส. สงขลา, ชลัฐ รัชกิจประการ สส. บัญชีรายชื่อ และ ศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (อนุทิน ชาญวีรกูล) เป็นตัวแทนรับฟังปัญหา พร้อมรับหนังสือคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
ตัวแทนสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนกล่าวว่า ทุกคนที่มาในวันนี้มีจุดประสงค์เดียวกันคือ การคัดค้านให้รัฐบาลนำกัญชากลับไปเป็นสารเสพติด เราผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ เราต้องการมาแสดงจุดยืนต่อรัฐบาล เราทุกคนทราบดีว่าขณะนี้กฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ จนทำให้เราเกิดปัญหา เราทุกคนได้ลงความเห็นกันแล้วว่ารัฐบาลต้องเร่งออกกฎหมายมาควบคุมปัญหาเหล่านี้ให้จบ
พร้อมทั้งกล่าวต่อว่า หลายคนเข้าใจว่า เมื่อกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้ง เราทุกคนไม่สามารถเข้าถึงกัญชาได้อีก แม้แต่ชาวบ้านที่ปลูกกัญชาหรือแพทย์ก็ไม่สามารถใช้ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยเต็มไปด้วยร้านยาเสพติด เราทุกคนจึงต้องแสดงจุดยืนร่วมกันเพื่อคัดค้าน เพราะท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จะเป็นผลประโยชน์ของทุกคน
“วันนี้ขออย่าให้ประเทศไทยถอยกลับไปอยู่ที่เดิมเลย มีหลายประเทศที่ตามหลังเราแต่ตอนนี้ได้แซงเราไปแล้ว อย่างสหรัฐอเมริกาก็เห็นว่ากัญชานั้นมีประโยชน์ และยังไม่มีข้อบ่งถึงความอันตรายเลย ดังนั้นอย่าให้ประเทศไทยต้องตามหลังใครเลย ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในเรื่องนี้ได้”
ขณะที่ศุภชัยกล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เคยคิดทอดทิ้งกัญชา ตนเองในฐานะคนที่เสนอปลดล็อกกัญชา เพราะเห็นว่ากัญชานั้นมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสุขภาพหรือเพื่อทางการแพทย์ พรรคภูมิใจไทยทำตามที่ได้ให้สัญญาไว้ และทำให้ทุกคนสามารถใช้กัญชา โดยไม่ถูกคนในประเทศมองว่ากัญชาเป็นอาชญากรรม
ศุภชัยกล่าวต่อว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำก็เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน หลังผ่านการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยเห็นว่ากฎหมายที่ยังค้างอยู่ก็โดนเกมทางการเมืองเล่นงานจนทำให้กฎหมายนั้นต้องตกไป และไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ แต่พรรคภูมิใจไทยเตรียมเสนอพระราชบัญญัติกัญชา กัญชงอีกครั้ง
ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยในเรื่องนี้ เราไม่ต้องพูดกันแล้ว สิ่งที่เราทำมาแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เราไม่ถอยอยู่แล้ว ทั้งกระบวนการทางนิติบัญญัติที่เราดำเนินการอย่างเต็มที่ เราเสนอร่างพระราชบัญญัติตามกระบวนการของสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของคณะรัฐมนตรีเพื่อให้นายกรัฐมนตรีรับรอง เพราะร่างบัญญัตินี้เป็นร่างที่เกี่ยวข้องกับการเงิน แต่เราต้องแจ้งว่าการจะเดินหน้ากฎหมายฉบับนี้เป็นกระบวนการที่นายกรัฐมนตรีต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ด้วย พร้อมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยทราบถึงข้อเรียกร้องทุกคนเป็นอย่างดี
