ไฟป่าแคนาดาทำฝุ่นพิษลามในอเมริกาเหนือ กระทบสุขภาพคนนับล้าน

เหตุไฟป่าที่กำลังลุกลามอย่างหนักในแคนาดาทำให้สภาพอากาศในอเมริกาเหนือตอนนี้ย่ำแย่อย่างมาก โดยมีการออกคำเตือนถึงความเสี่ยงด้านคุณภาพอากาศในระดับสูงแก่ประชาชนหลายล้านคนในภูมิภาคแห่งนี้

ควันจากไฟป่าได้เข้าปกคลุมหลายเมืองใหญ่ในรัฐออนแทรีโอและรัฐควิเบกของแคนาดา รวมถึงเมืองโทรอนโตและบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ควันดังกล่าวยังลามไปไกลถึงนิวยอร์กซิตี้และรัฐคอนเนตทิคัตในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้มีประกาศเตือนว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ ‘มีผลกระทบต่อสุขภาพ’ (Unhealthy) โดยควันส่วนใหญ่ลอยมาจากรัฐควิเบก ซึ่งมีไฟไหม้ป่ามากถึง 160 แห่ง และยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของแคนาดาออกคำเตือนถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายที่สุดในกรุงออตตาวาวานนี้ (6 มิถุนายน) โดยระบุว่าคุณภาพอากาศในเมืองหลวงของแคนาดามี ‘ความเสี่ยงสูงมาก’ (Very High Risk) ต่อสุขภาพของผู้คน ส่วนในเมืองโทรอนโตและพื้นที่โดยรอบ คุณภาพอากาศจัดอยู่ในประเภทมี ‘ความเสี่ยงสูง’ (High Risk)

ขณะเดียวกัน ทางด้านของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ได้จัดระดับคุณภาพอากาศในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ว่า ‘มีผลกระทบต่อสุขภาพ’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดนั้นคือนิวยอร์กซิตี้และรัฐคอนเนตทิคัต ขณะที่สภาพอากาศย่ำแย่นี้ยังลอยไปไกลถึงบอสตัน พิตต์สเบิร์ก และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วย

พื้นที่บางส่วนของเพนซิลเวเนียตะวันออก นิวยอร์ก และนิวอิงแลนด์ มีดัชนีคุณภาพอากาศแตะระดับ 200 ซึ่งหมายถึงสภาพอากาศมีสภาวะที่ ‘ไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับทุกคน’

สำหรับในนิวยอร์กซิตี้ ผู้คนได้แชร์ภาพถ่ายลงโซเชียลมีเดียที่เผยให้เห็นถึงฝุ่นควันพิษหนาลอยปกคลุมท้องฟ้าจนเป็นสีส้ม ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เตือนให้ประชาชนงดเว้นการออกกำลังกายกลางแจ้ง และพยายามลดการทำกิจกรรมในพื้นที่เปิดเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดอากาศพิษเข้าไปในร่างกายให้ได้มากที่สุด เนื่องจากควันเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ทั้งแบบฉับพลันและในระยะยาว

อนึ่ง ปัจจุบันแคนาดากำลังเผชิญกับฤดูไฟป่าที่ถี่ขึ้นกว่าเดิม โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางเตือนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า ในช่วงฤดูร้อนนี้แคนาดาอาจเจอกับไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากสภาพอากาศที่แล้งและร้อนจัด โดยเปลวเพลิงได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 3.3 ล้านเฮกตาร์ หรือกินพื้นที่มากเป็น 12 เท่าของค่าเฉลี่ยไฟป่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีประชาชนหลายพันคนที่ต้องอพยพออกจากบ้านของตัวเอง โดยเฉพาะในรัฐควิเบก ซึ่งเพลิงได้เผาไหม้พื้นที่ไปแล้วถึง 200,000 เฮกตาร์