วันนี้ (27 กรกฎาคม) พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหวด้วยการใช้อาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์
“ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกล เช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบหรือมีการสูญเสีย” โฆษกกองทัพบกกล่าว
พล.ต. วินธัยกล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (26 กรกฎาคม) เวลาประมาณ 15.30 น. กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชา ยังคงพุ่งเป้าใส่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านซำเม็ง หมู่ 3 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับความเสียหายอย่างหนักที่ตัวอาคาร แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เพราะได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไปก่อนแล้ว
อีกทั้งยังปรากฏข่าวสารความเคลื่อนไหวว่าอาจมีอาวุธที่มีประสิทธิภาพ เช่น PHL-03, RM-70 และ BM-21 ที่อาจมีแนวโน้มที่จะเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับฝ่ายกัมพูชา นั่นอาจแสดงถึงท่าทีของกัมพูชา ที่ฝ่ายไทยยังไม่สามารถไว้วางใจได้ โดยสถานการณ์ล่าสุดฝ่ายกัมพูชายังไม่หยุดโจมตีด้วยอาวุธทุกรูปแบบต่อฝ่ายไทย
กองทัพบกจะดำเนินการเต็มขีดความสามารถเพื่อตอบโต้การรุกราน และยืนยันยังคงมุ่งเน้นต่อเป้าหมายทางทหารที่ส่งผลต่อภัยคุกคามทางทหาร และชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเท่านั้น ภายใต้กรอบกติกาสากลอย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยให้ได้อย่างดีที่สุด