ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้คำมั่น พร้อมร่วมมือกับเกาหลีใต้ แก้ไขปัญหาสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ หลังพบกับคิมจินอา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่สองของเกาหลีใต้ ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวานนี้ (16 ตุลาคม) เพื่อหารือแนวทางในการต่อสู้กับเครือข่ายอาชญากรรมในกัมพูชา
ทั้งสองประเทศจะดำเนินการเสริมสร้างความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกัน ปราบปราม และต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความมั่นคงทางสังคม
ฮุน มาเนต ได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ พัคมินโฮ นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ วัย 22 ปี ซึ่งพบศพในเดือนสิงหาคม ที่จังหวัดกัมปอต ประเทศกัมพูชา หลังถูกทรมานและถูกทำร้ายร่างกายโดยกลุ่มอาชญากร โดย ฮุน มาเนตยังให้คำมั่นว่า จะพยายามให้มากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองเกาหลีใต้ในกัมพูชา
ทางด้าน คิมจินอาก็ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ต่อแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของการหลอกลวงทางออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปที่ชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการอย่างเข้มงวดมากขึ้นต่ออาชญากรรมหลอกลวงออนไลน์ และขอให้กัมพูชาส่งคืนร่างของ พัคมินโฮ โดยเร็ว เนื่องจากก่อนหน้านี้การส่งคืนศพล่าช้า เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับคำขอชันสูตรพลิกศพของเกาหลีใต้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาจากทั้งสองประเทศ
เกาหลีใต้ประเมินว่ามีคนประมาณ 200,000 คน รวมถึงชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1,000 คน ทำงานอยู่ในศูนย์สแกมเมอร์ออนไลน์ในกัมพูชา หลายคนถูกล่อลวงด้วยคำสัญญาเรื่องงานที่จะได้รับค่าตอบแทนสูง ก่อนที่จะถูกบังคับให้ทำงาน โดยขัดต่อความประสงค์ แต่บางคนก็ไปด้วยความสมัครใจ โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีรายงานว่าชาวเกาหลีใต้ 330 คนถูกควบคุมตัวในกัมพูชา ซึ่ง 80% ของคดีเหล่านี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
เบื้องต้น เกาหลีใต้ได้ออกคำสั่งห้ามเดินทางไปยังพื้นที่บางส่วนของกัมพูชา และออกคำเตือนการเดินทางสำหรับชาวเกาหลีใต้ในจังหวัดสีหนุวิลล์ของกัมพูชา ทั้งยังเตรียมที่จะตั้งโต๊ะเกาหลี (Korean Desk) ที่สีหนุวิลล์ เพื่อช่วยเหลือพลเมืองของตนเองอีกด้วย
ภาพ: Agence Kampuchea Press / Handout via Reuters
อ้างอิง:
