กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลปะกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ในวันนี้ (11 พฤศจิกายน) ประณามกองทัพไทยทำลายปราสาทตาควายต่อเนื่องวันที่ 9-10 ธันวาคม ส่งผลให้รูปลักษณ์และโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของปราสาทตาควายถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง วอนทั่วโลกร่วมประณาม เรียกร้องไทยหยุดการรุกรานและทำลายมรดกทางวัฒนธรรมทั้งหมดทันที
ทั้งนี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีแถลงการณ์ประณามดังกล่าว โดยระบุว่า ประเทศไทยยึดมั่นใน อนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954 ว่า กรณีความขัดแย้งทางอาวุธ ซึ่งกำหนดให้โบราณสถานต้องได้รับการคุ้มครอง และห้ามการโจมตีหรือการกระทำใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อนุสัญญาฯ มีข้อยกเว้นที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “หากมีการนำโบราณสถานไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร เช่น การตั้งฐานที่มั่น การควบคุมการปฏิบัติการ การเป็นจุดซุ่มยิง หรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมการโจมตี พื้นที่ดังกล่าวอาจ สูญเสียความคุ้มครองในทางกฎหมายเป็นการชั่วคราว ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร”
ดังนั้น เมื่อฝ่ายกัมพูชาตั้งใจใช้อาณาบริเวณโบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการทางทหาร รวมถึงใช้เป็นที่ตั้งระบบตรวจการณ์ และที่ตั้งระบบอาวุธยิงเพื่อใช้โจมตีต่อฝ่ายไทย จึงทำให้พื้นที่ดังกล่าวจึงเข้าข่าย เป็นพื้นที่ที่ ‘สูญเสียความคุ้มครองชั่วคราว’ ตามอนุสัญญากรุงเฮก ค.ศ. 1954


