กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชาได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากสถานทูตจีน และสถานทูตอินเดีย ประจำกัมพูชา ในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นประธานร่วมของ ICC-พระวิหาร รวมถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกาและสถานทูตมาเลเซียในฐานะที่ทั้งสองประเทศเป็นพยานในการลงนามถ้อยแถลงร่วมฯ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและ กดดันให้ไทยยุติการทำลายสมบัติของมนุษยชาติ
ตามประกาศเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2025 กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์กัมพูชาระบุว่า ในช่วงสองวันมานี้กองทัพไทยได้ยิงโจมตีต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานบางส่วนของปราสาทพระวิหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่ใช้สำหรับงานอนุรักษ์ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกัมพูชา-อินเดีย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปราสาท
ในวันนี้ (9 ธันวาคม) ปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของกัมพูชา ก็ได้รับความเสียหายจากการถูกยิงทำลายอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ไร้ศีลธรรมและการละเมิดมรดกทางวัฒนธรรมของกัมพูชาและของมวลมนุษยชาติ
กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ได้ติดต่อประสานงานอย่างสม่ำเสมอกับสถาบันระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อขอให้มีการเข้าแทรกแซงให้กองทัพไทยยุติการทำลายแหล่งมรดกของมนุษยชาติโดยทันที
ขณะที่ทางการไทยระบุว่า กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฯ ใช้ ‘โบราณสถาน’ เป็นฐานที่ตั้งทหาร โจมตีไทยต่อเนื่อง จนไทยต้องยิงตอบโต้ไปยังจุดที่ตั้งทางการทหารเขมรบน ‘ปราสาทตาควาย’
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ในวันนี้เปิดเผยว่า ทางฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก BM-21 และปืนใหญ่ ยิงเข้ามายังฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง โดยทางทหารกัมพูชา ใช้ ‘ปราสาทตาควาย’ ที่เป็นโบราณสถาน เป็นฐานที่ตั้ง และที่ทำการทางทหาร
กัมพูชาไม่เคยให้ความสำคัญในเรื่องของทางโบราณสถาน จึงเป็นการละเมิดอนุสัญญากรุงเฮกว่าด้วยการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในกรณีพิพาททางอาวุธ ค.ศ. 1954 (Hague Convention 1954) ซึ่งทางฝ่ายกัมพูชา ยังคงกระทำมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา ทหารไทยจึงได้ยิงฐานปฏิบัติการทางทหารกัมพูชา ที่อยู่บริเวณปราสาทตาควาย หลังจากที่ทหารไทยถูกโจมตีด้วยอาวุธทางทหารของกัมพูชาบนปราสาทตาควายอย่างหนัก เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของตนเอง
ภาพ: Fresh News
อ้างอิง:


