วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, กปปส., นปช., คปท. รวมถึงนักวิชาการ ,ศิลปิน และนักแสดง กว่า 40 คน ได้รวมตัวกันแถลงข่าว ‘รวมพลังแผ่นดิน’
เพื่อแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา กับผู้นำประเทศไทย
นิติธร ล้ำเหลือ เริ่มต้นอ่านแถลงการณ์ โดยระบุว่าตั้งแต่ปี 2475 ผู้บริหารและผู้บัญญัติกฎหมายไทยไม่ได้ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยฯ และไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ทำให้เกิดวิกฤตการณ์รุนแรง ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม และความมั่นคง โดยมีสาเหตุจากการที่ผู้มีอำนาจไม่เคารพกฎหมาย ทุจริตฉ้อฉล และขาดความรับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังมีขบวนการสมคบคิดที่ทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม และอำนาจอธิปไตยของประเทศ
ที่เลวร้ายที่สุดคือ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความไร้ความสามารถอย่างชัดเจน และมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะการกระทำที่อาจผิดประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร และขัดต่อรัฐธรรมนูญ มีหลักฐานสาธารณะที่บ่งชี้ถึงการสมคบคิดและใช้อำนาจเพื่อตอบสนองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีเป้าหมายรุกล้ำอำนาจอธิปไตยและยึดครองประเทศไทย ถือเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนและขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณ
แถลงการณ์จึงเรียกร้องให้ แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที เนื่องจากสิ้นความชอบธรรมแล้ว
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน บ้านพระอาทิตย์ และตัวแทนของ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้เป็นสักขีพยานและสนับสนุนการประกาศแถลงการณ์ของภาคประชาชน โดยย้ำว่าประชาชนที่มารวมตัวกันมีเป้าหมายเดียวกันคือปกป้องประเทศชาติ พวกเขาเชื่อว่าภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติเมื่ออยู่นอกประเทศ ก็ต้องกำจัดผู้ที่เป็นมิตรกับอริราชศัตรูด้วยเช่นกัน
จตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวอย่างชัดเจนว่า “บัดนี้เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนว่านายกรัฐมนตรีเป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับคนไทยและประเทศไทย นายกรัฐมนตรีเป็นคนของฝ่ายตรงข้าม”
ดังนั้นจึงไม่สามารถให้นายกรัฐมนตรีคนนี้บริหารประเทศต่อไปได้แม้แต่วันเดียว และพรรคการเมืองใดที่ฟังคลิปสนทนาระหว่างสมเด็จฮุนเซนกับ แพทองธาร แล้วยังต้องการร่วมรัฐบาลต่อ “พวกคุณเลยคำว่าพายเรือให้โจรนั่งไปแล้ว แต่คุณกำลังร่วมกันพายเรือไปขายชาติ พายเรือไปร่วมกันทรยศชาติ”
จตุพรย้ำว่าไม่เคยเจอนายกรัฐมนตรีคนไหนที่ตัดหัวแม่ทัพของตัวเองส่งบรรณาการให้กับประเทศกัมพูชา พร้อมกล่าวถึงการที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการสถานการณ์ความมั่นคง และเรียกร้องให้ประชาชนจมเรือถ้าใครพายเรือไปขายชาติ พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ เวลา 16.00-21.00 น.
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงคลิปเสียงที่หลุดออกมา และชี้แจงความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนักเรียนตำรวจ แต่ปัจจุบันต้องมายืนอยู่คนละฝั่ง เพราะเชื่อว่าทักษิณมีเป้าหมายที่จะเลียนแบบสมเด็จฮุนเซน ในการยึดอำนาจมาปกครองประเทศ
โดยเชื่อว่า ทักษิณ ต้องการนำระบบการเมืองแบบฮุนเซนมาใช้ในประเทศไทย แต่ยังไม่สำเร็จ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า ทักษิณ พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตนเองมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม และกล่าวว่า “สงสารประเทศไทยที่ได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่มีความรู้ความสามารถ”
ย้ำว่าเรื่องคลิปเสียงเป็นเรื่องของประเทศชาติที่ทุกคนต้องผนึกกำลัง “เอารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีความสามารถออกไปให้ได้” และเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลลาออก โดยระบุว่าตอนนี้มีเพียงพรรคภูมิใจไทยที่ชิงลาออก ซึ่งอาจถือโอกาสสวมบทเป็นพระเอก
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เชื่อว่าพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความไม่เหมาะสมในการบริหารประเทศได้ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นก่อน โดยเปรียบเทียบจากกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยของรุ่นน้า (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) มาจนถึงพฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน
ทั้งนี้ประชาชนรับรู้มาตลอดว่านายกรัฐมนตรีขาดความรู้ความสามารถและสติปัญญาในการเป็นผู้นำประเทศ และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ความจริงเหล่านี้ก็ปรากฏออกมา พร้อมยกกรณีคลิปเสียงที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า “แม่ทัพภาคที่ 2 คือฝ่ายตรงข้ามของเรา ถ้าสมเด็จฮุน เซน ต้องการอะไรจะจัดการให้” ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ดีและตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่กับการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะแสดงให้เห็นถึงความไร้ความสามารถและจิตใจที่ไม่ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลังประชาชน
สมชาย แสวงการ อดีต สว. กล่าวถึงการบริหารของรัฐบาลแพทองธารที่ล้มเหลว จึงเรียกร้องให้ แพทองธาร ลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลควรแสดงท่าทีชัดเจนโดยการถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล “เลิกเป็นวอลเปเปอร์ให้กับคนขายชาติ”
พิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ย้ำว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นฝั่งกัมพูชา วันที่ 28 มิถุนายนนี้ จึงขอเชิญชวนประชาชน และข้าราชการทุกหมู่เหล่า มาแสดงพลังเป็นฝ่ายประเทศไทย พร้อมเชิญชวนนำธงชาติมาโบกสะบัดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ก่อร่างสร้างบ้านเมืองนี้มานับเป็นพันปีไม่เคยมีผู้นำคนไหนที่กลัวกัมพูชามากไปกว่านี้อีกแล้ว คำพูดของนายกรัฐมนตรีสื่อให้เห็นว่าไม่เคยคำนึงถึงประเทศจากคลิปสนทนา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำก่อนไล่เขมรคือไล่นายกก่อน
ปานเทพสรุปการแถลงข่าววันนี้ใน 3 ข้อ
- ประชาชนทั้งหมดที่มาร่วมในวันนี้เรียกร้องให้ แพทองธาร ชินวัตร ลาออกทันที
- เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกทันที
- เรียนเชิญพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสีเสื้อ ทุกอายุ ชุมนุมในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลา 16.00-21.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
โดยปานเทพย้ำว่า การขอรวมพลังครั้งนี้เป็นพลังแห่งความสามัคคีในการปกป้องอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยและทวงคืนแผ่นดินไทยที่ถูกลุกลามมาทั้งหมดให้เป็นของราชอาณาจักรไทย
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมแถลงข่าว อาทิ จตุพร พรหมพันธุ์, นิติธร ล้ำเหลือ, พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ, ใจเพชร กล้าจน, เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, แก้วสรร อติโพธิ, ขวัญสรวง อติโพธิ, ปรีดา เตียสุวรรณ์, สมชาย แสวงการ, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ประสาร มฤคพิทักษ์, จเด็จ อินสว่าง, ประพันธ์ คูณมี, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พล.อ. สมเจตน์ บุญถนอม, พล.ท. กนก เนตรคเวสนะ, พล.ท. นันทเดช เมฆสวัสดิ์, พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา, กษิต ภิรมย์, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, ถาวร เสนเนียม, ถวิล เปลี่ยนศรี, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, รสนา โตสิตระกูล, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, คมสัน โพธิ์คง, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, เจษฎ์ โทณะวณิก, ไชยันต์ ไชยพร, นันทิวัฒน์ สามารถ, วีระ สมความคิด, เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์, สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, อัญชะลี ไพรีรัก, หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊ หฤทัย), ชัชชัย สุขขาวดี (หรั่ง ร็อคเคสตร้า), สาวิทย์ แก้วหวาน, มานพ เกื้อรัตน์, คมสันต์ ทองศิริ, ณีรนุช จิตต์สม, เสน่ห์ หงษ์ทอง และเครือข่ายองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจ