OR กำไรไตรมาส 3 พุ่ง 17% รายได้ลดตามราคาน้ำมันแต่บริหารต้นทุนได้ดี ดันกำไร 9 เดือนโตเกือบเท่าตัว
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ว่ามีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 153,600 ล้านบาท ลดลง 8.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง และมีกำไรสุทธิ 2,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 17.1% สะท้อนถึงการบริหารจัดการต้นทุนและการปรับโครงสร้างธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2568 OR มีรายได้รวม 503,188 ล้านบาท ลดลง 6.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 9,226 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 98.4% หรือเกือบเท่าตัวจากปีก่อนหน้า โดยมี EBITDA รวม 15,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% ในทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้ง Mobility, Lifestyle และ Global
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า การเติบโตในไตรมาส 3 มาจาก กลุ่มธุรกิจ Mobility เป็นหลัก โดยเฉพาะกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่เพิ่มขึ้นจากผลิตภัณฑ์ดีเซลและเบนซิน สะท้อนถึงการบริหารต้นทุนและราคาขายที่มีประสิทธิภาพ
ด้าน กลุ่มธุรกิจ Global แม้รายได้ลดลง 9.2% จากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แต่ปริมาณจำหน่ายยังปรับเพิ่ม โดยเฉพาะในตลาดฟิลิปปินส์ ส่วน กลุ่ม Lifestyle เติบโต 5.2% จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้าน Café Amazon ที่มียอดจำหน่ายไตรมาสนี้รวม 109 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทิศทางต่อจากนี้ OR ตั้งเป้าเสริมความแข็งแกร่งให้ทุกกลุ่มธุรกิจในไตรมาส 4 ปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนความต้องการใช้พลังงานและการบริโภคเพิ่มขึ้น
โดยในกลุ่ม Mobility บริษัทเตรียมเดินหน้าขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station และสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
รวมถึงกลุ่ม Lifestyle ปัจจุบัน OR มีเครือข่ายร้านค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มกว่า 4,729 สาขา อาทิ Café Amazon, Pearly Tea และ Pacamara Coffee Roasters โดยเฉพาะ Café Amazon มีถึง 4,613 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และจิฟฟี่ รวมกว่า 2,347 สาขา ขณะที่ธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม found & found ปัจจุบันมี 12 สาขา และตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 50 สาขาภายในปี 2569 เพื่อสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคครบวงจร
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แต่ธุรกิจใน สปป.ลาว ยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในส่วนของสถานีบริการที่มีกำไรขั้นต้นสูงขึ้น ขณะเดียวกัน OR ยังคงติดตามความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลก โดยเฉพาะมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนและภาวะตลาด


