วันนี้ (29 พฤศจิกายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรจังหวัดเชียงใหม่ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการประชุม ครม.สัญจร นัดแรกภายใต้แนวคิด ‘From Flood to Flourish ฟื้นคืนสู่ความเฟื่องฟู’ สื่อถึงการที่ ครม.สัญจร มาจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ครั้งนี้จะเป็นแสงสว่างที่จะช่วยสร้างความเฟื่องฟูให้กับชาวเชียงใหม่อีกครั้งหลังผ่านพ้นกับมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ และพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน
ก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี พร้อมสามี บุตรสาวและบุตรชาย ได้เยี่ยมชมนิทรรศการจำหน่ายสินค้า พร้อมระบุว่าต้องขอบคุณ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ริเริ่มโครงการ OTOP ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้ พร้อมชี้ให้ลูกๆ ดูรูปที่ถ่ายกับทักษิณสมัยเป็นนายกฯ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม มารอต้อนรับพร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปเซลฟีกับนายกฯ ด้วย
ครม. จ่อทุ่มงบฟื้นฟูน้ำท่วม-เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2
โดยมีวาระพิจารณาขออนุมัติงบประมาณเพื่อพัฒนาพื้นที่ในแต่ละจังหวัดภาคเหนือ
ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เตรียมขออนุมัติงบกลาง 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการและฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 564 โครงการ
ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนา ช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว เป็นเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาท วงเงินงบประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เสนอ
กระทรวงการคลังเสนอขอความเห็นชอบนโยบายรัฐบาลเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3-4 ล้านคน ซึ่งวางไว้ให้สามารถใช้จ่ายได้ก่อนช่วงตรุษจีนปี 2568
กระทรวงคมนาคมเสนอที่ประชุมต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท 2 โครงการ คือโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์-ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ ออกไปอีก 1 ปี โดยจะครบกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568
นอกจากนี้คาดว่าที่ประชุม ครม. จะหยิบยกประเด็นการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน-ไฟป่ามาหารือ ก่อนที่แพทองธารจะลงพื้นที่ติดตามปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงปัญหายาเสพติดบริเวณชายแดน
4 รมต. ลุยแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ ‘อนุทิน’ ให้คำมั่นประชาชนไม่ถูกทอดทิ้ง
โดย 4 รัฐมนตรี ประกอบด้วย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงมหาดไทย, ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.กระทรวงมหาดไทย และ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กระทรวงกลาโหม ร่วมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากจังหวัดนราธิวาส เนื่องจากลงพื้นที่แก้ปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
แพทองธารกล่าวเปิดประชุมว่า ทราบกันดีว่า 2-3 วันที่ผ่านมามีฝนตกอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ตอนนี้รัฐมนตรีทั้ง 4 คนได้อยู่ในพื้นที่
จากนั้นอนุทินรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสว่า ตนและ รมช. อยู่ในพื้นที่ฝนตกต่อเนื่อง ระดับน้ำสูงพอสมควร และเร่งระบายน้ำออกจากรันเวย์สนามบินนราธิวาส ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน และตนได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างเต็มที่ ช่วงเย็นนี้จะเร่งอพยพประชาชน ผู้ป่วย และกลุ่มเปราะบาง ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุกไปแจกจ่ายผู้ประสบภัย ส่วนการจัดยาและอุปกรณ์ดำรงชีพ จังหวัดได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีประชาชนถูกทอดทิ้งและได้รับความช่วยเหลืออย่างถ้วนหน้า
สำหรับการสัญจรในพื้นที่ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง เพื่อลดผลกระทบเส้นทางจราจรของประชาชน อย่างไรก็ตาม ทราบว่าสภาพอากาศมีแนวโน้มจะดีขึ้น ฝนจะเบาบางลงตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป จากนั้นจะเร่งสำรวจความเสียหายและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ในส่วนของเงินช่วยเหลือประชาชนจะเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
อนุทินย้ำว่า การระบายน้ำไม่มีปัญหา แต่ช่วงนี้น้ำทะเลหนุนจึงทำให้ไม่สามารถระบายออกไปได้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม ครม. ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีได้สวมเสื้อผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติด้วยครั่งออกมาเป็นสีชมพูบานเย็น เป็นสีประจำมณฑลพายัพ บนเสื้อปักลายพระราชทาน ‘ลายสิริวชิราภรณ์’ และ ‘ลายดอกรักราชกัญญา’ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี มีลายหงส์ในโคม ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ทำการทอและย้อมโดยผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP 5 ดาวกลุ่มอาชีพผ้าฝ้ายอำพัน อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่