วันนี้ (8 ธันวาคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งและอำนาจการดำเนินกิจการของ ขสมก. ให้สามารถประกอบธุรกิจอื่นๆ ออกพันธบัตรเงินกู้หรือตราสารอื่นใด เพื่อการลงทุนหรือเพื่อประโยชน์แก่กิจการของ ขสมก. ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมได้เสนอว่า ขสมก. ได้ดำเนินการศึกษาโครงการพัฒนาการใช้พื้นที่เชิงธุรกิจอู่มีนบุรีและอู่บางเขน โดยพบว่า อู่มีนบุรีมีพื้นที่ 10 ไร่ มีราคาตลาดมูลค่า 347 ล้านบาท มีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นอพาร์ตเมนต์และตลาด ลักษณะการให้สิทธิเอกชนเข้าพัฒนาพื้นที่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนอู่บางเขนมีพื้นที่ 11ไร่ 1 งาน 93 ตารางวา มีราคาตลาดมูลค่า 1,148.25 ล้านบาท มีความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการประเภทศูนย์การค้า โรงแรม ลักษณะเปิดให้เอกชนประมูลเพื่อลงทุนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม
ขณะเดียวกันคณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้ ขสมก. เพิ่มรายได้ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ลดภาระกับภาครัฐ จำเป็นต้องพัฒนาพื้นที่ในเชิงธุรกิจตามแผนฟื้นฟูกิจการ จึงเห็นควรให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พ.ศ. 2519 นอกจากนี้เพื่อการบริหารจัดการหนี้สินและเกิดประโยชน์ในการชำระหนี้ได้ในระยะยาวจำเป็นต้องออกพันธบัตรเงินกู้ จึงเห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7(7) ในพระราชกฤษฎีกาฉบับเดียวกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า