วันนี้ (7 ตุลาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการของรัฐบาล และเป็นสัปดาห์แรก ของการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569
สำหรับวาระที่น่าสนใจในการประชุม ครม. วันนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส ภายใต้กรอบวงเงิน 44,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจปีงบฯ 2569 วงเงิน 25,000 ล้านบาท และงบกลาง 19,000 ล้านบาท โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะครอบคลุมประชาชนกว่า 20 ล้านสิทธิ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเริ่มลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตังได้ระหว่างวันที่ 20-26 ตุลาคมนี้ โดยผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับสิทธิ์คนละ 2,400 บาท ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้รับ 2,000 บาท และคาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะพิจารณาแผนบูรณาการการทำงานตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลในแต่ละด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และดิจิทัล เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีเอกภาพและลดความซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน
อีกทั้งอาจมีการพิจารณางบเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยฝ่ายความมั่นคงจะรายงานสถานการณ์ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เนื่องจากวันนี้ครบกำหนดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ส่งแผนอพยพชาวกัมพูชาในพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านคลองแผง รวมถึงจะมีการรายงานความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ซึ่งถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ขณะเดียวกัน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะเสนอแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานรัฐในการจัดทำความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม. และเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายด้านเศรษฐกิจ
รวมถึงเสนอแนวทางดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขดำที่ 1896/2568 ระหว่าง ธนพร ศรียากูล ผู้ฟ้องคดี กับคณะรัฐมนตรีและพวก รวม 3 คน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอนุมัติรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 68 ประจำปีการศึกษา 2568-2569 ของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะรายงานรายชื่อคณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี, กระทรวงคมนาคมจะเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการบินพลเรือนด้วย ส่วนการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย วงเงินกว่า 6,000 ล้านบาท คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ครม. วันที่ 14 ตุลาคมนี้