วันนี้ (5 กรกฎาคม) ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงิน 8,382.2 ล้านบาท จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุจำนวน 10.95 ล้านคน เพื่อบรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน 2565 ตามที่มติ ครม. เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 อนุมัติหลักการให้จ่ายช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ (เฉลี่ยรายละ 100-250 บาท/คน/เดือน ตามช่วงอายุ)
โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เมษายน-กันยายน 2565 มีสิทธิ 4 กลุ่ม ดังนี้
- อายุ 60-69 ปี (จำนวน 6.5 ล้านคน) อัตราเงินช่วยเหลือ 100 บาท/คน/เดือน
- อายุ 70-79 ปี (จำนวน 3.0 ล้านคน) อัตราเงินช่วยเหลือ 150 บาท/คน/เดือน
- อายุ 80-89 ปี (จำนวน 1.2 ล้านคน) อัตราเงินช่วยเหลือ 200 บาท/คน/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป (จำนวน 1.9 แสนคน) อัตราเงินช่วยเหลือ 250 บาท/คน/เดือน
ปัจจุบันได้รับการยืนยันข้อมูลจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา พบว่ามีผู้สูงอายุกลุ่มเป้าหมายจำนวน 10,946, 646 คน เพิ่มขึ้นจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 จำนวน 50,202 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามจำนวนผู้ลงทะเบียนของกลุ่มผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยสูงอายุ ที่นับรวมผู้สูงอายุที่จะครบ 60 ปีบริบูรณ์ในปี 2565 วงเงินงบประมาณจำนวน 8,382.2 ล้านบาท
สำหรับแผนการจ่ายเงินครั้งแรก กำหนดงวดที่หนึ่งในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 เป็นการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษครั้งเดียวสำหรับ 4 เดือน (เมษายน-กรกฎาคม 2565) ครั้งที่สอง 19 สิงหาคม 2565 สำหรับเดือนสิงหาคม และครั้งที่สาม 19 กันยายน 2565 สำหรับเดือนกันยายน 2565 โดยวิธีดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุจะดำเนินการทั้งในรูปแบบการจ่ายเข้าบัญชีธนาคาร โดยกรมบัญชีกลาง และการจ่ายเงินสดให้กับผู้สูงอายุ โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา