วานนี้ (24 มกราคม) ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดให้กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ (ฉบับที่…) พ.ศ…. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้กิจการให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมีสิทธิ์แจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากร เพื่อขอจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เพื่อให้เป็นไปในเกณฑ์เดียวกับกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน ที่อยู่ในรูปของกระดาษ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันกิจการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน ทั้งในรูปแบบกระดาษและบริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่มีข้อแตกต่างคือ ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ฯ ไม่มีสิทธิ์แจ้งต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายกำหนดให้ทำได้ ดังนั้นการให้สิทธิ์แก่ผู้ให้บริการในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จึงเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเสียภาษีระหว่างผู้ประกอบการซึ่งประกอบธุรกิจเดียวกันแต่ช่องทางแตกต่างกัน
ไตรศุลีกล่าวว่า การเป็นธุรกิจที่สามารถจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้นี้จะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น ทั้งโอกาสในการนำค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการประกอบธุรกิจมาขอคืนภาษีซื้อได้ ช่วยลดต้นทุนในการประกอบการลง ธุรกิจมีความน่าเชื่อมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจเนื่องจากสามารถออกใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อได้
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับแล้ว ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เนื่องจากเป็นการกำหนดให้ผู้ให้บริการซึ่งได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้วมีสิทธิ์ขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ไม่ใช่อัตราการลดภาษีหรือยกเว้นภาษี จึงไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐแต่อย่างใด