วันนี้ (26 พฤศจิกายน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้ออกประกาศเรื่อง อนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก เพื่อการดำเนินงานด้านการบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ พ.ศ. 2568 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
ประกาศฉบับนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐในการค้นหา กู้ภัย และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นวงกว้าง โดยอนุญาตให้สามารถใช้งานโดรนในพื้นที่ประสบภัย รวมถึงพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด พื้นที่หวงห้ามเฉพาะ และพื้นที่อันตรายที่อยู่ในเขตประสบภัย เพื่อภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้
เพื่อลดข้อจำกัดและช่วยให้การปฏิบัติงานต่อเนื่องแข่งกับเวลา CAAT อนุญาตให้ปฏิบัติการบินหลังเวลา 18.00 น. ได้ ภายใต้เงื่อนไขความปลอดภัย ดังนี้:
- ・ระบบไฟ: โดรนต้องติดตั้งไฟระบุตำแหน่งและทิศทางการเคลื่อนที่อย่างชัดเจน
- การประสานงาน: ผู้บังคับโดรนต้องประสานกับหน่วยปฏิบัติการภาคพื้น หน่วยกู้ภัย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อป้องกันการรบกวนภารกิจ
- เส้นทางบิน: ต้องไม่กีดขวางเส้นทางบินของอากาศยานของรัฐ หรืออากาศยานฉุกเฉินอื่นๆ
สำหรับภารกิจที่จำเป็นต้องบินใน เขตพื้นที่สนามบินอนุญาต หรือภายในระยะ 9 กิโลเมตร (5 ไมล์ทะเล) จากสนามบินที่อยู่ในเขตประสบภัย:
- ต้องแจ้งขออนุญาต จากสนามบินก่อนปฏิบัติการทุกครั้ง
- จะสามารถขึ้นบินได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากสนามบินแล้วเท่านั้น
ผู้ที่ได้รับอนุญาตตามประกาศนี้ มีหน้าที่ต้องแจ้งรายละเอียดการปฏิบัติงาน ได้แก่ ข้อมูลพื้นที่ วัน และเวลาที่ทำการบิน ส่งไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ทางอีเมล [email protected] ภายใน 30 วัน หลังจากสถานการณ์อุทกภัยสิ้นสุดลง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการกำกับดูแลความปลอดภัยการบินของประเทศต่อไป
ทั้งนี้ CAAT ย้ำว่ามาตรการดังกล่าวออกมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมในภาวะวิกฤต โดยยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินสูงสุด เพื่อให้ประชาชนได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและปลอดภัย


