ข้อตกลงการซื้อขายกิจการ TikTok ในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเป็นที่จับตามองทั่วโลก โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ByteDance Ltd. บริษัทแม่สัญชาติจีนของ TikTok มีแนวโน้มที่จะยังคงได้รับส่วนแบ่งผลกำไรประมาณ 50% จากการดำเนินงานในสหรัฐฯ แม้ว่าจะต้องขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มนักลงทุนอเมริกันตามข้อตกลงที่ผลักดันโดย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า แหล่งข่าวเปิดเผยว่าโครงสร้างผลประโยชน์ของ ByteDance จะมาจาก 2 ส่วนหลักคือ 1.ค่าลิขสิทธิ์อัลกอริทึม (Algorithm Licensing Fee) โดย ByteDance จะได้รับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในสัดส่วนที่สูงจากรายได้ทั้งหมดที่เกิดจากการอนุญาตให้ TikTok U.S. ซึ่งเป็นนิติบุคคลใหม่ สามารถใช้อัลกอริทึมอันทรงพลังของตนได้
ค่าธรรมเนียมนี้อาจสูงถึง 20% ของรายได้ส่วนเพิ่ม ที่สร้างขึ้นโดยอัลกอริทึม ตัวอย่างเช่น หากมีรายได้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ByteDance อาจได้รับค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์
2.ส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนหุ้น (Profit Share from Equity) นอกเหนือจากค่าลิขสิทธิ์แล้ว ByteDance จะยังคงถือหุ้นใน TikTok U.S. ในสัดส่วนประมาณ 20% และจะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากรายได้ที่เหลือตามสัดส่วนการถือหุ้นนี้
เมื่อรวมผลประโยชน์ทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน แหล่งข่าวประเมินว่าบริษัทแม่ในปักกิ่งจะยังคงได้รับส่วนแบ่งผลกำไรโดยรวมจากการดำเนินงานในสหรัฐฯ ไม่ต่ำกว่า 50%
ไขปริศนา ‘ราคาขาย’ ที่ต่ำกว่าคาด
โครงสร้างการแบ่งปันผลกำไรนี้ ช่วยอธิบายความแตกต่างอย่างมากระหว่างมูลค่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ 3.5 – 4 หมื่นล้านดอลลาร์ กับตัวเลขมูลค่าการซื้อขายที่ เจ.ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่เพียง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
อัชวิน บินวานี ผู้ก่อตั้ง Alpha Binwani Capital ให้ความเห็นว่า ข้อเสนอที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ “อาจเป็นการเข้าซื้อกิจการเทคโนโลยีที่ประเมินค่าต่ำที่สุดในทศวรรษนี้” โดยประเมินว่าตัวเลขดังกล่าวสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของ TikTok เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น
โมเดลนี้ชี้ให้เห็นว่า ByteDance อาจยอมรับราคาขายเบื้องต้นที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อแลกกับกระแสรายได้และผลกำไรที่ต่อเนื่องและมีมูลค่ามหาศาลในระยะยาว
มหากาพย์ TikTok นี้ดำเนินมาอย่างยาวนานข้ามหลายรัฐบาล โดยเริ่มต้นจากกฎหมายในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่บีบให้ ByteDance ต้องขายกิจการในสหรัฐฯ หรือมิฉะนั้นจะถูกแบน แต่หลังจากที่ทรัมป์กลับเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง เขาได้เลื่อนเส้นตายการขายออกไปหลายครั้ง พร้อมทั้งเจรจาหาทางออกที่เป็นการประนีประนอมเพื่อให้บริการยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยมักกล่าวว่าการสนับสนุนบนแพลตฟอร์ม TikTok ได้ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งในปี 2024
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้หารือทางโทรศัพท์กับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยฝ่ายสหรัฐฯ ระบุว่าผู้นำทั้งสองได้บรรลุข้อตกลงในการขายแล้ว แต่ทางการจีนยังไม่ได้ออกมายืนยันข้อตกลงดังกล่าว และเงื่อนไขของธุรกรรมก็ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด
กลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ (ประมาณ 80%) คาดว่าจะประกอบด้วย Oracle Corp., Silver Lake Management และ MGX ซึ่งเป็นบริษัทจากอาบูดาบี ร่วมกับนักลงทุนเดิมรายอื่นๆ
อ้างอิง:
