คนไทยกำลังจับตามองรถยนต์ไฟฟ้าภายในงาน Motor Expo ที่เพิ่งเปิดฉากขึ้น โดยต้องการมองหาทางเลือกในจังหวะที่น้ำมันมีราคาสูงขึ้น แต่ด้วยความที่มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่พร้อมส่งมอบรถ EV ภายในสิ้นปีนี้ ทำให้ BYD ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนมีความได้เปรียบในช่วงแรก
“แบรนด์ใดก็ตามที่ส่งมอบได้เร็ว ลูกค้าก็จะแห่กันไปที่นั่น” คู่สามีภรรยาจากกรุงเทพฯ กล่าวตามรายงานอ้างอิงโดย Nikkei Asia ทั้งคู่สั่งซื้อรถเอสยูวี BYD ATTO 3 หลังจากรอรุ่นไฟฟ้าจาก MG และ Volvo ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
โดย BYD ATTO 3 นั้นได้เปิดจองเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน และ BYD รับประกันว่ารถยนต์ 5,000 คันจะพร้อมส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ ทำให้ยอดครึ่งหนึ่งถูกสั่งซื้อล่วงหน้าในวันแรก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- BYD ATTO 3 เปิดตัวราคา 1,199,900 บาท เริ่มรับจอง 1 พ.ย. ส่งมอบได้ทันที 500 คัน พร้อมตั้งเป้าขาย 5,000 คัน สำหรับปีนี้
- Toyota เคาะราคาขาย รถยนต์ไฟฟ้า Toyota bZ4X 1,836,000 บาท เผยเป็นการนำเข้าจากญี่ปุ่น และไทยมีโควตาปีนี้ไม่ถึง 50 คัน
- เตรียมตัวให้พร้อม! Tesla บอกใบ้พร้อมให้คนไทย ‘จองรถ’ ธันวาคม 2022 นี้ คาดส่งมอบได้ต้นปี 2023
BYD กลายเป็นที่จับตามองหลังลงนามในข้อตกลงเพื่อเปิดศูนย์กลางการผลิตแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในทางกลับกัน Toyota Motor ซึ่งเป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน จะไม่เริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยซึ่งมีฐานการผลิตจนกว่าจะถึงปี 2024 หรือ 2025
การมีรถยนต์พร้อมจำหน่ายจะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่รัฐบาลไทยลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจาก 8% เป็น 2% สำหรับผู้ผลิตต่างชาติที่สัญญาว่าจะเริ่มการผลิตในประเทศภายในระยะเวลาที่กำหนด
ตัวอย่างเช่น BYD นำเข้ารถยนต์จำนวน 5,000 คันเข้ามาในประเทศภายใต้ข้อตกลงนี้ และมีเวลาอีก 3 ปีในการเริ่มการผลิตในประเทศไทย ส่วน Mercedes-Benz EQS ก็เริ่มการผลิตในประเทศไทยในปีนี้ ซึ่งเป็นฐานการผลิต EV แห่งแรกนอกประเทศเยอรมนี
เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่แพงที่สุดของ EV การผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทยจะช่วยให้ Mercedes-Benz ปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อให้มีสิทธิได้รับภาษีการขายที่ลดลง ข้อตกลงนี้ทำให้ Toyota, Honda และ Nissan ได้เปรียบในประเทศไทยมานานหลายทศวรรษ แต่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นประสบปัญหาในการปรับปรุงสายการผลิตและโรงงานของตนเพื่อตอบสนองความต้องการ EV
Toyota bZ4X เป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของยักษ์ใหญ่ที่เปิดขายในประเทศไทย รายงานระบุว่าได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 3,000 คันนับตั้งแต่เปิดจองเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน แต่คาดว่าลูกค้าจะได้รับรถ 50 คันเท่านั้นในปีนี้ ส่วน Great Wall Motor ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนอีกรายกล่าวว่า จะส่งมอบรถยนต์นำเข้าจากแบรนด์ ORA จำนวน 2,000 คันภายในปีนี้
ขณะที่ Ford Motor ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า 40% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 กล่าวว่า บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย นอกจากนี้สิ่งที่ต้องจับตาคือการเปิดตัวของ Tesla ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ น่าจะทำให้สมรภูมินี้ร้อนระอุขึ้นอย่างแน่นอน
ภาพ: Rêver Automotive Thailand
อ้างอิง: