วันนี้ (8 มกราคม) พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์กรณีความสับสนของประชาชนในการโหลดแอปพลิเคชัน ‘หมอชนะ’ ว่าการรณรงค์ให้ใช้แอปพลิเคชันหมอชนะ เพื่อช่วยให้ติดตามควบคุมการแพร่เชื้อของโรคที่ไปกับบุคคล และการออกแบบแอปพลิเคชันดังกล่าวจึงระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและมีแนวคิดเพื่อติดตามสำหรับทุกคน โดยไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของใคร
พุทธิพงษ์ชี้แจงใน 3 ประเด็นที่ยังมีข้อกังวลและเกิดความสับสนอยู่ในสังคม คือเมื่อโหลดแอปพลิเคชันไปแล้วมีความปลอดภัยหรือไม่ ยืนยันว่ามีความปลอดภัย เพราะเมื่อโหลดไปแล้วจะไม่ปรากฏชื่อ-นามสกุล แต่จะเป็นรหัสตัวเลขระบบคอมพิวเตอร์ เช่น 111 ดังนั้น เวลาเข้าไปดูจะไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปดูข้อมูลได้จะมีแต่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น และสามารถย้อนหลังไปได้ประมาณ 14 วัน แล้วจะทราบว่าตัวเลขนี้ไปพบกับใครบ้าง ก็จะส่งสัญญาณเตือนเจ้าของหมายเลขนั้นๆ ว่ามีความเสี่ยง
ส่วนเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับไทม์ไลน์และไม่อยากบอกคนอื่น เรื่องนี้หากทุกคนพร้อมใจกันโหลดแอปพลิเคชันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกไทม์ไลน์ให้คนอื่นรู้ เพราะระบบตรวจสอบเองว่าคนที่ติดหนึ่งคนได้ไปสัมผัสกับใครบ้างที่โหลด จึงสบายใจได้ว่าถ้ามีปัญหา มีความเสี่ยงหรือติดเชื้อจะได้ไม่ต้องมานั่งนึกไทม์ไลน์
“สำหรับข้อกังวลว่าในแอปพลิเคชันต้องมีการถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตน เกรงจะไม่ปลอดภัย ถูกนำไปเก็บในข้อมูลของรัฐบาลหรือไม่นั้น ยืนยันว่าการถ่ายรูปในแอปพลิเคชันเป็นแค่การถ่ายรูปและเก็บไว้ในมือถือของบุคคลนั้นๆ ไม่ได้นำมาเก็บไว้เป็นข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งการถ่ายรูปยืนยันตัวตนในกรณีที่จะเดินทางข้ามจังหวัด ก็สามารถแสดงที่จุดตรวจหรือด่านได้” พุทธิพงษ์กล่าว
พุทธิพงษ์ยืนยันด้วยว่า ข้อกังวลที่หลายคนกลัวว่าแอปพลิเคชันหมอชนะมีการติดตามทางไมโครโฟนว่าเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะดูดเสียงเก็บไว้เพื่อเอาข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และแอปพลิเคชันหมอชนะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ใช้ท่ามกลางการให้ระบาดเป็นวงกว้าง เพื่อให้หมอและพยาบาลเฝ้าติดตามข้อมูล และป้องกันการติดต่อของเชื้อที่จะไปกับประชาชนที่เดินทางสามารถทำได้เร็วขึ้น และจำกัดการแพร่ตัวของโรคได้เร็วขึ้น
พุทธิพงษ์ยังย้ำว่า การไม่โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะ วันนี้ไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่โหลดไม่เป็นไร แต่เป็นการขอความร่วมมือประชาชนให้โหลดแอปพลิเคชันหมอชนะไว้ทุกคน ช่วยโหลดกันเยอะๆ เพราะคนที่โหลดก็จะได้ประโยชน์แก่ตัวเอง แก่คนในครอบครัว ยิ่งบ้านที่มีผู้สูงอายุด้วย เมื่อโหลดแล้วเวลาไปไหนเมื่อ 7 หรือ 10 วันที่ผ่านมา ก็อาจจะไม่รู้ว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ คนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือระบบที่จะโหลดได้ ก็เข้าระบบปกติคือการบันทึกเอกสาร ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขก็ได้มีการจัดทำเอกสารให้กรอกข้อมูล
“ทั้งนี้เมื่อโหลดและกรอกข้อมูลจะถือว่าทุกคนมีความเสี่ยงต่ำ เพราะระบบติดตามจะเริ่มเมื่อโหลดแอปพลิเคชันและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเมื่อเดินทางและไปอยู่ใกล้บุคคลที่มีความเสี่ยง ไทม์ไลน์ก็จะเริ่มขึ้น ขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดปลอดภัยเป็นประโยชน์ต่อการติดตามควบคุมและง่ายต่อการสอบสวนโรค” พุทธิพงษ์กล่าว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล