×

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ กับทุกประเด็นก่อนเทรด ‘BTZ’ ยูทิลิตี้โทเคนประจำแพลตฟอร์ม Bitazza [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
25.02.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • วันที่ 22/2/2022 ในเวลา 20.02 น. โทเคน BTZ เหรียญประจำแพลตฟอร์ม Bitazza เปิดให้เหล่าบรรดานักลงทุนเริ่มเทรดบนแพลตฟอร์มสากล Bittazza Global เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 
  • BTZ คือเหรียญยูทิลิตีโทเคน (Utility Token) ของ Bitazza บนเครือข่าย ERC-20 ถูกออกแบบขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ว่า ผู้ถือเหรียญจะได้รับประโยชน์จากคุณค่าของเหรียญที่ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนซื้อขายทั่วไปเท่านั้น แต่รวมถึงกรณีที่เหรียญถูกใช้งานด้วย
  • ไม่ใช่แค่ในเชิงมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นเท่านั้น เพราะ Bitazza ใส่ใจมากๆ ว่าตัวเหรียญ BTZ จะต้องคำนึงถึงแผนการระยะยาวที่ยั่งยืนกับตัวผู้ถือเหรียญ โดยเฉพาะการกระจายตัวเหรียญให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม มีความเหมาะสม รวมถึงการเปรียบเปรยที่ว่าผู้ถือเหรียญ BTZ ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็น ‘ผู้ถือกุญแจเข้าสู่ระบบนิเวศบิทาซซ่ายูโทเปีย’ ทั้งสิ้น

กลายเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์เหรียญที่ได้รับความนิยม อยู่ในกระแสความสนใจของบรรดานักลงทุนจำนวนมากในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับโทเคน BTZ เหรียญประจำแพลตฟอร์ม Bitazza (บิทาซซ่า) ต้นกำเนิดจากประเทศไทยที่โกอินเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 22/2/2022 ในเวลา 20.02 น. ได้เปิดให้เหล่าบรรดานักลงทุนมาเริ่มเทรดกันอย่างคึกคักบนแพลตฟอร์มสากล Bitazza Global 

 

ในแง่ของมูลค่าการเทรดและตัวเหรียญนั้นเราคงไม่อาจพูดถึงแบบเจาะลึกได้ เนื่องจากความผันผวนตามกลไกตลาดและปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบได้ แต่ประเด็นที่อยากชวนคุยก็คือ ทำไมเจ้าโทเคน BTZ เหรียญต้นกำเนิดจากไทยในครั้งนี้ถึงได้รับความสนใจมากมายถึงเพียงนี้ (วัดจากกระแสการบอกต่อในกลุ่มนักลงทุนไปจนถึงการพูดคุยจากคนรอบตัว) และความตั้งใจเบื้องหลังการลิสต์เหรียญในครั้งนี้คืออะไรกันแน่?

 

Bitazza Global คือใคร?

อันดับแรก เรามาทำความรู้จักและความเข้าใจกันก่อนว่า Bitazza Global คือใคร และมีที่มาที่ไปอย่างไร เราทราบมาว่าจากการที่ Bitazza แพลตฟอร์มต้นกำเนิดโทเคน BTZ ที่มีระบบนิเวศเป็นของตัวเอง รวมถึงยังเป็นผู้นำเทรนด์ลิสต์เหรียญต่างๆ ทำให้ภายใน 2 ปีกว่านั้น Bitazza เติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่าครึ่งล้านที่หมุนเวียนเทรดผ่านแพลตฟอร์มของพวกเขา และในปีที่ผ่านมาวอลุ่มการเทรดอยู่ที่ระดับแสนล้านบาท ทำให้ Bitazza ได้เปิดประตูขยายสู่ระดับสากล รองรับฐานลูกค้าที่อยู่นอกประเทศไทยด้วยการขยายไปสู่ประเทศอื่นๆ และเปิด Bitazza Global เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

Bitazza Global ก็คือแพลตฟอร์มคริปโตเคอร์เรนซีระดับสากลที่เปิดให้ผู้ใช้งานจากทั่วทุกมุมโลกสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย เรียลไทม์ และเป็นมาตรฐาน โดยเป็นศูนย์กลางการให้บริการตลาดสากลเพื่อบริการผู้ใช้งานสากล

 

แล้วโทเคน BTZ คืออะไร ประโยชน์ในเชิงการใช้งานคืออะไรกันแน่?

อย่างที่เราทราบกัน BTZ ก็คือเหรียญยูทิลิตีโทเคน (Utility Token) ของ Bitazza หรือเหรียญประจำแพลตฟอร์ม Bitazza บนเครือข่าย Ethereum (ERC-20) ถูกออกแบบขึ้นมาด้วยแนวคิดที่ว่า ผู้ถือเหรียญจะได้รับประโยชน์จากคุณค่าของเหรียญที่ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนซื้อขายทั่วไปเท่านั้น แต่รวมถึงกรณีที่เหรียญถูกใช้งานด้วย

 

ซึ่งประโยชน์ของเจ้าโทเคน BTZ ก็เช่น 

 

  1. ชำระแทนค่าธรรมเนียมพร้อมรับส่วนลดสูงสุดถึง 75% 
  2. สะสมเพื่อเพิ่มระดับ Bitazza Levels – เลื่อนระดับสมาชิกเพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากเพื่อนที่ชวนมาใช้งาน
  3. วางสเตก (Staking) – วางเหรียญไว้ในระบบ เพื่อรับผลตอบแทนตามระยะเวลาที่กำหนด 
  4. สิทธิประโยชน์ใช้โทเคน BTZ เพื่อแลกรางวัลและบริการพิเศษจากทางบิทาซซ่าและพาร์ตเนอร์
  5. คอมมูนิตี้โหวต สิทธิ์ในการออกเสียงโหวตเพื่อพัฒนาระบบและการลิสต์เหรียญ โดยจำนวนสิทธิ์ในการออกเสียงจะขึ้นอยู่กับจำนวนโทเคน BTZ ที่เราถือ

 

https://btz.bitazza.com/th/index.html

 

โดยนอกจาก 5 ข้อที่กล่าวมา ในอนาคต Bitazza ก็วางแผนจะพัฒนาประโยชน์การใช้งานในด้านอื่นๆ ตัวอย่างเช่น การใช้งานกับกลุ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และพรีเพดการ์ด (เติมเงินบริการต่างๆ) เพื่อยกระดับสิทธิประโยชน์พิเศษของเหรียญให้กับผู้ถืออย่างเต็มรูปแบบ 

 

Bitazza

https://btz.bitazza.com/th/dashboard.html

 

เศรษฐศาสตร์โทเคน BTZ ที่ออกแบบมาดี คิดมาแล้วว่าต้อง ‘คำนึงถึงความเท่าเทียม’ ทั่วถึงในวงกว้าง 

 

ในเชิงกลไกของตัวเหรียญนั้น ทาง Bitazza ให้ข้อมูลมาว่า พวกเขาให้ความสำคัญกับหลักเศรษฐศาสตร์ของการทำ Tokenization มาโดยละเอียดแล้ว ซึ่งถือเป็นรากฐานที่ Bitazza ใส่ใจมากๆ ว่าตัวโทเคน BTZ จะต้องคำนึงถึงแผนการระยะยาวที่ยั่งยืนกับตัวผู้ถือเหรียญ โดยเฉพาะการกระจายตัวเหรียญให้คนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม มีความเหมาะสม

 

โดยที่ปัจจุบันโทเคน BTZ มีจำนวนจำกัดทั้งหมดที่เพียง 3,000 ล้านโทเคนเท่านั้น

 

ซึ่งในจำนวนนี้ Bitazza ได้จัดสรร BTZ ก้อนใหญ่ที่สุด 900 ล้านโทเคน หรือราว 30% ให้กับชุมชนผู้ใช้งานและคอมมูนิตี้

 

อีก 840 ล้านโทเคน หรือราว 28% ถูกจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท

 

ขณะที่ ‘กลุ่มผู้บริหาร พนักงาน ผู้ทำประโยชน์ให้กับบริษัท ที่ปรึกษา’ และ ‘กลุ่มพาร์ตเนอร์ พันธมิตร และการขยายพัฒนาทางธุรกิจ’ จะได้รับการปันส่วนในสัดส่วนที่เท่าๆ กันที่กลุ่มละ 600 ล้านโทเคน หรือ 20%

 

ส่วนอีก 60 ล้านโทเคนที่เหลือ หรือราว 2% ถูกจัดสรรให้กับโครงการเงินสมทบทุนเพื่ออิสรภาพ (Bitazza Freedom Fund) โดยที่ทุกกลุ่มจะมีตารางการกำหนดการปล่อยโทเคนตามเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการรักษาสมดุลของดีมานด์และซัพพลายในตลาด การรักษาปริมาณของเหรียญที่หมุนเวียนในตลาด

 

https://btz.bitazza.com/th/dashboard.html

 

ทั้งนี้ Bitazza เปรียบผู้ถือเหรียญ BTZ ของพวกเขาว่าเหมือนเป็น ‘ผู้ถือกุญแจเข้าสู่ระบบนิเวศบิทาซซ่ายูโทเปีย’ ทางทีมจึงพัฒนาการใช้งานเพื่อสร้างมูลค่าให้เหรียญมากที่สุด ทั้งคะแนนเสียงโหวตเพื่อตัดสินใจเลือกลิสต์เหรียญ เลือกผลิตภัณฑ์ แสดงความเห็นเพื่อพัฒนาระบบ 

 

นั่นจึงไม่แปลกที่ว่าโทเคน BTZ ยังมีนัยสำคัญไปถึงอนาคตในเชิงที่ว่า ตัวผู้ถือเหรียญทุกคนจะเหมือนผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์มีเสียงในการร่วมออกแบบอนาคตของแพลตฟอร์ม Bitazza ที่พวกเขาเลือกใช้งาน เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้งานด้วยความสบายใจ ตอบโจทย์ทุกข้อจำกัดและทุกความต้องการของพวกเขา

 

ทั้งหมดจึงตอบคำถามได้ดีว่า เพราะอะไร Bitazza ถึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการของโทเคน BTZ มากถึงเพียงนี้ เพราะพวกเขามุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำให้โทเคนของพวกเขานำไปสู่วงจรการสร้างคุณค่าที่สามารถเติบโตได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของระบบนิเวศบิทาซซ่ายูโทเปีย

 

หมายเหตุ: ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนโดยละเอียดและรอบคอบ โดยเฉพาะข้อมูลพื้นฐานของเหรียญประเภทนั้นๆ เนื่องจากการลงทุนทุกรูปแบบล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่จะได้กำไรหรือขาดทุนไม่ต่างกัน โดยเนื้อหาในบทความนี้เป็นเพียงการแนะนำที่มาที่ไปของโปรเจกต์โทเคน BTZ เท่านั้น ไม่ได้เป็นไปในเชิงการชี้ชวนเพื่อการลงทุน

 

นอกจากนี้โทเคน BTZ ถูกพัฒนาโดยกลุ่มของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด จึงอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) ระหว่างกลุ่มบริษัท และเนื่องจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและผันผวนสูง อาจสูญเสียเงินลงทุน ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องของแต่ละเหรียญก่อนตัดสินใจลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้

 

https://btz.bitazza.com/th/dashboard.html

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X