บรูไนถือเป็นประเทศที่มีความอนุรักษนิยมมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีประชากรราว 450,000 คน โดยได้ประกาศใช้กฎหมายปาหินประหารชีวิตคนรักเพศเดียวกันและคนคบชู้ผ่านหน้าเว็บไซต์ของอัยการสูงสุดอย่างเงียบๆ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2018 ที่ผ่านมา และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เมษายนนี้
ทางการบรูไนเริ่มประกาศใช้กฎหมายที่มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ปี 2014 ที่ประกาศใช้กฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามเป็นประเทศแรกในย่านอาเซียน โดยในปี 2014 มีบทลงโทษแก่ผู้ที่มีบุตรนอกสมรส ผู้ที่ละเลยการละหมาดในวันศุกร์ รวมถึงบุคคลที่เผยแพร่ศาสนาอื่นที่ไม่ใช่ศาสนาอิสลาม จะต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
ก่อนที่จะเริ่มมีการลงโทษตัดมือบุคคลที่ขโมยของและเฆี่ยนตีบุคคลที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนนำไปสู่การห้ามจำหน่ายสินค้ามึนเมาดังกล่าวในพื้นที่สาธารณะในที่สุด ก่อนที่ในปี 2016 จะเริ่มพุ่งเป้ามาที่กลุ่มคนรักเพศเดียวกันที่มีเพศสัมพันธ์กัน กลุ่มคนที่คบชู้ คนร้ายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา รวมถึงผู้ที่ตัดสินใจเปลี่ยนศาสนาจากศาสนาอิสลามไปนับถือศาสนาอื่น อาจถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการปาหินต่อหน้าสาธารณชนจนเสียชีวิต แต่ถูกต่อต้านอย่างหนักจากประชาคมโลก
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้บรูไนทบทวนการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง พร้อมเรียกร้องให้ประกาศใช้กฎหมายที่สอดคล้องกับหลักสากลโดยเร็วที่สุด ที่ผ่านมาการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารประเทศภายใต้การนำของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในบรูไน
โดยประเทศที่ประกาศใช้กฎหมายประหารชีวิตต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ส่วนใหญ่เป็นประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น ไนจีเรีย ซาอุดีอาระเบีย เยเมน อิหร่าน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- edition.cnn.com/2019/03/27/asia/brunei-anti-lgbt-stoning-law-intl/index.html?no-st=1553743914
- www.straitstimes.com/asia/se-asia/brunei-to-impose-death-by-stoning-for-gay-sex-and-adultery
- www.lgbtqnation.com/2019/03/brunei-may-start-stoning-gay-bi-men-death-next-month-sharia-law/
- www.thejakartapost.com/seasia/2019/03/28/brunei-to-impose-death-by-stoning-for-gay-sex-and-adultery.html