เจย์เลน บราวน์ สตาร์ทีมบอสตัน เซลติกส์ ได้ทำการต่อสัญญาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NBA โดยการขยายสัญญา 304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 10,500 ล้านบาท ออกไปอีก 5 ปี ทำให้บราวน์จะอยู่กับทีมไปจนจบฤดูกาล 2028/29
สัญญาของบราวน์มีมูลค่ามากกว่าสัญญาล่าสุดของ นิโคลา โยคิช ผู้เล่นระดับ MVP ที่ขยายสัญญากับเดนเวอร์ นักเก็ตส์ออกไปในปี 2022 อีก 5 ปี มูลค่า 276 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9,540 ล้านบาท และทำให้เขากลายเป็นนักบาสเกตบอลที่มีรายได้เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NBA
สัญญาดังกล่าวมาจากการที่บราวน์มีสิทธิ์ได้รับการต่ออายุซูเปอร์แม็กซ์ 5 ปีกับเซลติกส์ หลังเขาถูกเลือกให้ติดทีม All-NBA ทีมที่ 2 ในฤดูกาลที่ผ่านมา และส่งผลให้เขาได้รับการต่อสัญญาด้วยสัญญาซูเปอร์แม็กซ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
สำหรับ เจย์เลน บราวน์ ทำคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในอาชีพถึง 26.6 คะแนน และยิงลงถึง 49% โดยเขาจะอยู่ภายใต้สัญญาเดิมที่จะได้รับเงิน 31.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,100 ล้านบาท ในฤดูกาลหน้า ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสัญญาเดิม
หลังจากนั้นบราวน์มีกำหนดจะทำเงินได้ 52.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,807 ล้านบาท เมื่อสัญญาใหม่เริ่มต้นในฤดูกาล 2024/25 และ 69.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2,388 ล้านบาท ในปี 2028/29 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของสัญญา
เททัม และ บราวน์ ทำคะแนนรวมกันได้ 56.7 คะแนนต่อเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งมากเป็นอันดับ 4 ตลอดกาลในบรรดาคู่หูทั้งหมด นับตั้งแต่ NBA มีการรวมลีกเมื่อฤดูกาล 1976/77
พวกเขาทั้งคู่ยังเก็บได้ถึงคนละ 30 แต้มถึง 10 เกม นับตั้งแต่เล่นร่วมกันมา ซึ่งในประวัติศาสตร์มีเพียง ชาคิล โอนีล และ โคบี ไบรอันต์ เท่านั้นที่ทำสถิตินี้ได้ในช่วง 30 ฤดูกาลหลังสุด
บราวน์พัฒนาขึ้นอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังเขามีเปอร์เซ็นต์ยิงฟิลด์โกลสูงสุดในอาชีพถึง 54% ด้วย