ตามเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น พบว่า Berkshire Hathaway อาณาจักรการลงทุนของ Warren Buffett ถือครองเงินสดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 381.7 พันล้านดอลลาร์ ณ ไตรมาส 3
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานทะยานกว่า 34% เป็น 13.49 พันล้านดอลลาร์ โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นสูงเป็นผลจากกำไรของกิจการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 3 เท่า เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีเหตุการณ์ภัยพิบัติต่ำผิดปกติ
แม้ Buffett จะปิดดีลด้วยการเข้าซื้อกิจการ UnitedHealth Group เป็นหุ้นมูลค่ากว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ไปเมื่อต้นปีนี้ และเข้าซื้อกิจการ OxyChem ด้วยมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Berkshire Hathaway ยังคงเลือกสถานะถือเงินสดต่อไป โดยมีการขายหุ้นออกไป 6.1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
Jim Shanahan นักวิเคราะห์ของ Edward Jones มองว่า “ยังไม่มีโอกาสไหนเข้าตา Buffett เท่าไรนัก ในตอนนี้”
เงินสดล้น รายได้แผ่ว
แม้จะมีเงินสดสำรองเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการลงทุนสุทธิของบริษัทกลับลดลง 13% เหลือ 3.2 พันล้านดอลลาร์ ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ลดลง
หลังจากที่ขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการประกันภัยช่วงแรก (Primary) และการประกันภัยต่อ (Reinsurance) ก็สามารถพลิกกลับมาทำกำไรก่อนหักภาษีได้ในไตรมาส 3
ทว่า กำไรก่อนหักภาษีของ Geico ธุรกิจประกันภัยรถยนต์ ที่ Berkshire ถือครองอยู่ กลับร่วงลง 13% ขณะที่ ยอดเคลมประกันสูงขึ้นเล็กน้อย และต้นทุนการรับประกันก็สูงขึ้น 40% โดยทาง Geico ระบุว่าเป็น ค่าใช้จ่ายในการหาลูกค้าเพิ่ม
ซึ่ง Shanahan มองว่า เป็นเงินค่าใช้จ่ายทางโฆษณา โดยสังเกตจาก “โฆษณา Geico ที่เผยแพร่ไปทั่วในตอนนี้”
กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจรถไฟ BNSF เพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากรายได้จากการขนส่งสินค้าเกษตรและพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกธัญพืชที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจสาธารณูปโภคของ Berkshire ซึ่งบริหาร PacifiCorp, MidAmerican และ NV Energy มีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 9% เหลือ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงไตรมาส 3
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Pilot กลับไม่ค่อยดีนัก โดยขาดทุนไป 17ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Shanahan สนใจว่า “บริษัทจะพลิกสถานการณ์กลับมาด้วยวิธีใด” โดย Bloomberg ได้รายงานก่อนหน้านี้ในเดือนกรกฎาคมว่า เครือปั๊มน้ำมันกำลังพิจารณาขายธุรกิจบริหารจัดการน้ำเพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก
หุ้นร่วงก่อนเปลี่ยนตัวบริหาร แต่ Berkshire ยังอยู่เฉย
ผลประกอบการของ Berkshire ถูกจับตามองในฐานะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ย่อส่วนลง เนื่องจากอาณาจักร Berkshire เต็มไปด้วยกิจการที่หลากหลายและมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น กิจการประกันภัย รถไฟ พลังงาน และการผลิต
ที่สำคัญกว่านั้น คือบริษัทกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ เนื่องจาก Buffett ในวัย 95 ปี กำลังจะวางมือ และมอบหมายให้ Greg Abel ในวัย 63 ปีมารับช่วงตำแหน่ง CEO เมื่อสิ้นสุดปีนี้
ทั้งนี้ Berkshire ไม่ทำการซื้อหุ้นคืนเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่หุ้นของบริษัทลดลงกว่า 12% นับตั้งแต่ Buffett ประกาศวางมือในเดือนพฤษภาคม
Cathy Seifert นักวิเคราะห์จาก CFRA Research กล่าวว่า “นั่นเป็นสารที่ทรงพลังมากต่อผู้ถือหุ้น ถ้าพวกเขาไม่ซื้อหุ้นคืน แล้วทำไมคุณต้องซื้อคืนด้วยล่ะ”
แม้กำไรจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้กลับเติบโตอย่างอ่อนแอในไตรมาส 3 ซึ่งไม่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน “ฉันกำลังดิ้นรนอย่างมากในการมองหาปัจจัยที่จะทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น” Seifert กล่าว
อ้างอิง:


