×

“ฉันแค่ต้องการชีวิตกลับคืนมา” Britney Spears พูดต่อหน้าชั้นศาลด้วยตัวเองครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมเรียกร้องให้พ่อยุติหน้าที่การเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตของเธอ

24.06.2021
  • LOADING...
Britney Spears

และแล้ววันนี้ก็มาถึง ที่นักร้องสาว บริตนีย์ สเปียร์ส ได้มีโอกาสพูดต่อหน้าชั้นศาลที่ลอสแอนเจลลิสด้วยตัวเองเกี่ยวกับประเด็นที่คาราคาซังมานานกว่า 13 ปี หลังพ่อของเธอ เจมี สเปียร์ส ได้เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตรวมถึงทรัพย์สินของตัวเองตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเบื้องหลังก็เต็มไปด้วยปัญหาการถูกกดขี่และไม่มีอิสระในการตัดสินใจอะไรเลยในชีวิต

 

ทางบริตนีย์ได้ใช้เวลาเกือบ 30 นาทีในการพูดต่อหน้า เบรนดา เพนนี ผู้พิพากษาในคดีนี้ โดยช่วงต้นเธอได้กล่าวว่าเธอมีหลายอย่างที่อยากจะพูดจากใจ เพราะครั้งสุดท้ายที่เธอได้ขึ้นศาล เธอก็รู้สึกว่าไม่มีใครรับฟังเธอทั้งสิ้น โดยประเด็นแรกที่เธอได้พูดถึงคือการที่ในปี 2018 เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็น ‘ทาส’ และถูกให้โดนใช้งานอยู่ตลอดเวลาโดยทางทีมผู้จัดการและพ่อของเธอ ซึ่งหลังจากเธอจบโชว์ Britney: Piece of Me ที่ลาสเวกัสช่วงปลายปี 2017 ซึ่งเธอแสดงมา 4 ปีเต็ม ทางบริตนีย์ก็โดนให้เซ็นสัญญาออกทัวร์ต่อทันทีในชื่อ Piece of Me Tour และโดนข่มขู่ว่าหากเธอไม่ยอม เธอก็ต้องไปหาทีมทนายเอาเอง

 

ต่อมาบริตนีย์ก็เผยว่าพอเธอจบทัวร์คอนเสิร์ต Piece of Me Tour ก็ต้องทำโชว์ใหม่ที่ลาสเวกัสทันทีในชื่อ Britney: Domination ซึ่งชีวิตของเธอก็ชุลมุนวุ่นวาย เพราะแม้ตัวเธอเองอยากพักผ่อนบ้าง แต่ก็ต้องฝึกซ้อม 4 วันต่อสัปดาห์ และกำกับโชว์ด้วยตัวเองเกือบทั้งหมด โดยตอนหลังเธอก็ตัดสินใจขอยกเลิกโชว์นี้เพราะตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ ซึ่งทางทีมผู้จัดการของเธอก็พยายามสร้างภาพว่าทางบริตนีย์ไม่ได้ใส่ใจในการฝึกซ้อม และกล่าวหาว่าเธอไม่ยอมกินยาที่เธอต้องกินประจำ ซึ่งในความเป็นจริง บริตนีย์กินยาทุกเช้า

 

ปัญหาก็ไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะต่อมาพอบริตนีย์ไปพูดคุยกับนักบำบัดโรค (Therapist) ที่ทางพ่อและทีมงานเป็นคนจัดหาให้เธอเอง เขาก็ได้เปลี่ยนยาของเธอเป็นยา Lithium แทน ซึ่งถือว่ารุนแรงมากๆ และให้ข้ออ้างว่าต้องเปลี่ยนเพราะได้รับสายจากหลายคนว่าบริตนีย์ไม่ยอมกินยาเก่าของเธอช่วงเวลาฝึกซ้อมโชว์คอนเสิร์ต แถมตอนนั้นเมื่อบริตนีย์ต้องเริ่มกินยา Lithium เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนคนขาดสติ และที่บ้านก็มีพยาบาลกว่า 6 คนเขามาดูแล ซึ่งในความเป็นจริงเธอไม่อยากกินยาตัวนี้ด้วยซ้ำ

 

นอกเหนือจากนั้น บริตนีย์ยังเผยว่าภาพและวิดีโอต่างๆ ที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งเธอดูมีความสุขกับชีวิต ที่จริงแล้วก็เป็นการโกหกทั้งหมด โดยเธอบอกในศาลว่า “ฉันบอกทั้งโลกว่าตัวเองโอเคและมีความสุข ซึ่งที่จริงมันเป็นเรื่องโกหก ฉันตกอยู่ในสภาวะที่ไม่ยอมรับความจริง ช็อกกับหลายเรื่องที่เกิดขึ้น บอบช้ำจิตใจ และพยายามหลอกตัวเองว่าทุกอย่างโอเค ซึ่งในความเป็นจริงฉันไม่มีความสุข ฉันนอนไม่หลับ ฉันเครียด ฉันร้องไห้ทุกวัน’

 

บริตนีย์ยังได้พูดอีกว่า สิ่งที่เธอต้องการตอนนี้คือการที่สามารถตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวเอง สามารถนั่งรถที่แฟนของเธอขับ และสามารถแต่งงานพร้อมมีลูกอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ทางพ่อก็ให้เธอใส่ห่วงคุมกำเนิด (IUD) เพื่อให้มีลูกไม่ได้

 

“ฉันไม่เคยนึกมาก่อนว่าฉันจะสามารถทำให้สิทธ์ผู้พิทักษ์ชีวิตมีโอกาสจบลงได้วันนี้ ฉันคิดว่าฉันทำมามากพอแล้ว ฉันไม่ต้องให้อะไรคนพวกนี้อีกต่อไป เพราะฉันให้พวกเขามามากพอแล้ว ทั้งให้มีที่พักอาศัยและเสื้อผ้าให้สวมใส่ทุกวัน มันเสียศีลธรรมมากกับสิ่งที่ฉันต้องเผชิญมาในชีวิต ซึ่งฉันไม่เคยกล้าพูดสิ่งนี้มาก่อนเพราะคิดว่าจะไม่มีใครเชื่อฉัน แต่ฉันไม่ได้โกหก ฉันแค่ต้องการชีวิตกลับคืนมา ฉันอยู่กับสิ่งนี้มาแล้ว 13 ปี และมันควรพอได้แล้ว มาวันนี้ฉันอยากให้เสียงของฉันได้ถูกยิน เพราะฉันเก็บมันมานานและมันไม่ดีต่อจิตใจฉัน ฉันอารมณ์ไม่ดีมาตลอดและร้องไห้ทุกวัน…เหตุผลที่ฉันมายืนอยู่ตรงนี้วันนี้ ก็เพราะฉันต้องการให้สิทธ์ผู้พิทักษ์ชีวิตจบสักที และฉันไม่ต้องถูกประเมินอีก” บริตนีย์ได้กล่าว พร้อมพูดปิดท้ายว่า “ฉันควรมีสิทธ์เท่าเทียมกับทุกคน สามารถมีลูกได้ มีครอบครัวได้ และสิ่งอื่นๆ และนี่คือทั้งหมดที่ฉันอยากมาพูดกับคุณในวันนี้ ขอบคุณมากๆ ที่ให้ฉันได้มาพูดวันนี้”

 

*สำหรับคำพูดทั้งหมดของ Britney ในศาลสามารถอ่านได้ที่นี่: https://variety.com/2021/music/news/britney-spears-full-statement-conservatorship-1235003940/

 

ภาพ: Allen Berezovsky/WireImage 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X