หากใครที่เป็นแฟนคลับตัวยงของ บริตนีย์ สเปียร์ส และได้อัปเดตเรื่องราวชีวิตเธอมาตลอด ก็จะรู้ดีว่าตั้งแต่ปี 2008 คุณพ่อของเธอ เจมี สเปียร์ส ได้เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของเธอทั้งหมด ในช่วงเวลาที่ลูกสาวกำลังฟื้นฟูตัวเองจากปัญหาด้านป่วยทางจิต
แต่ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ก็มีหลายกระแสได้ออกมาต่อต้านและวิจารณ์ว่าเจมีคุมเข้มชีวิตบริตนีย์มากเกินไป จนเธอไม่มีอิสระอะไรทั้งสิ้น และกลับถูกใช้เหมือนเป็นแค่สินค้าสร้างรายได้ให้คุณพ่อและทีมงานของเธอ ซึ่งก็ทำให้เกิดแคมเปญ #FreeBritney ออกมา และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีบทบาทขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นมีแฟนคลับออกมาประท้วงหน้าศาลหลายครั้ง
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางบริตนีย์ก็ได้ยื่นเอกสารไปยังศาลสูงของลอสแอนเจลิส เพื่อเรียกร้องให้คุณพ่อของเธอไม่กลับมาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตเธออีกครั้ง หลังไปพักรักษาตัวช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาจากปัญหาลำไส้ใหญ่ โดยบริตนีย์อยากให้ โจดี มอนต์โกเมรี ที่มาเป็นตัวแทนชั่วคราว มารับมาเป็นผู้พิทักษ์ชีวิตเธอแทน ซึ่งตามกฎหมาย โจดีจะเป็นผู้พิทักษ์จนถึงวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ก่อนที่ศาลจะต้องพิจารณาใหม่วันนี้ (19 สิงหาคม) ว่าเจมีสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งนี้ได้หรือใหม่
“เรามาถึงขั้นที่ความเป็นผู้พิทักษ์ของ บริตนีย์ สเปียร์ส ควรถูกเปลี่ยนแปลง เพื่อสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเธอ” ซามูเอล ดี. อิงแฮม ทนายความของบริตนีย์ได้เขียนในเอกสาร ซึ่งทางซามูเอลก็ได้เผยว่า เตรียมใจที่เจมีจะสู้ถึงขั้นสูงสุด เพื่อให้ได้กลับมาเป็นผู้พิทักษ์อีกครั้ง
ตั้งแต่เจมีได้เข้ามาเป็นผู้พิทักษ์ของบริตนีย์ ทางศาลได้ยอมให้เขาได้รับเงินค่าตัวในการดูแลลูกสาวคนดังเป็นเงิน 130,000 ดอลลาร์ หรือราว 4 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในปี 2018 ทางเอกสารค่าใช้จ่ายของบริตนีย์ยังมีการระบุให้เห็นว่า ตลอดทั้งปีเธอได้จ่ายค่าตัวคุณพ่อและค่าธรรมเนียมการกฎหมายมากที่สุดกว่า 1.1 ล้านดอลลาร์ หรือราว 31 ล้านบาท หากเทียบกับสิ่งอื่นๆ ในชีวิตของเธอ
ภาพ: Larry Busacca / MTV1617 / Getty Images for MTV
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: