Andrew Hauser ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาดของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวเมื่อวันพุธ (1 มิถุนายน) ว่าสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) จะไม่สร้างความท้าทายที่ใหญ่เกินไปสำหรับการดำเนินงานของ BoE
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษมีกำหนดจะหารือร่วมกันในปีนี้ว่าควรสร้างสกุลเงินดิจิทัลของตนเองหรือไม่ ซึ่งจะกลายมาเป็นคู่แข่งกับคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin โดย CBDC ได้กับการสนับสนุนจาก ริชิ ซูนัค รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอังกฤษ ให้พิจารณาความเป็นไปได้ของการออก ‘Britcoin’ เพื่อมาเป็น CBDC ของอังกฤษ
Hauser กล่าวว่า สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจะเป็นความรับผิดชอบของธนาคารกลางรูปแบบใหม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายศตวรรษ แต่ก็ไม่ใช่สกุลเงินที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของ BoE ก่อนย้ำว่า CBDC ใดๆ ก็ตามจะไม่แทนที่เงินสด และจะมีมูลค่าเทียบเท่ากับธนบัตรปอนด์สเตอร์ลิง อีกทั้งการใช้งบดุลของธนาคารกลางในการจัดหาเงินจากการทำธุรกรรมที่รัฐสนับสนุนเป็นหนึ่งในหน้าที่ของทางธนาคารกลางที่มีมายาวนานที่สุด
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษมองว่าเงินสำรองปอนด์สเตอร์ลิงซึ่งบรรดาธนาคารพาณิชย์ถือไว้ถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลประเภทหนึ่ง และ CBDC ที่ครบถ้วนสมบูรณ์เป็นรูปแบบการเข้าถึงระบบนี้ในวงกว้างของสาธารณชน ซึ่งอาจลดบทบาทของธนาคารในการชำระเงินแบบรายวัน
สำหรับความสนใจของธนาคารกลางในชาติตะวันตกใน CBDC ถูกกระตุ้นโดยความเป็นไปได้ที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อาจสร้างรูปแบบการชำระเงินของตนเอง สิ่งนี้อาจจะสามารถข้ามระบบการธนาคารแบบดั้งเดิม ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงทางการเงิน
ประธานธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า หากบริษัทเดินตามเส้นทางข้างต้นนี้ก็ควรคาดหวังว่าจะได้รับการควบคุมตามมาตรฐานเดียวกับธนาคาร
โดย ‘Stablecoins’ ที่มีอยู่ เป็นประเภทของสกุลเงินดิจิทัลที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินหลักหรือสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว และย้ำว่าผู้ถือเหรียญดังกล่าวต้องยอมรับความเป็นไปได้ที่จะหมดตัว พร้อมยกตัวอย่างการล่มสลายของ TerraUSD เมื่อเร็วๆ นี้ และการลดลงของมูลค่าของ Tether ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นชั่วคราว
วันเดียวกัน มีรายงานว่า Binance แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเปิดตัวกองทุนร่วมลงทุนของตนเองในชื่อว่า Binance Labs โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 500 ล้านดอลลาร์สำหรับกองทุนเริ่มต้นที่เพิ่งเปิดตัว และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุน DST Global และ Breyer Capital ตลอดจนสำนักงานและบริษัทในเครือต่างๆ อีกมากมาย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง Andreessen Horowitz ประกาศตั้งกองทุนยักษ์ใหญ่มูลค่า 4,500 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุนในการเริ่มต้นธุรกิจคริปโต
รายงานระบุว่า ทาง Binance Labs วางแผนที่จะใช้เงินทุนเพื่อลงทุนในบริษัทที่สร้าง ‘Web3’ แม้ว่าจะยังคงเป็นคำศัพท์ที่ไม่ชัดเจน แต่ Web3 ก็ได้อ้างถึงการทำซ้ำในอนาคตของอินเทอร์เน็ตที่มีการกระจายอำนาจมากกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ในปัจจุบัน และรวมเอาบล็อกเชน (Blockchain) บัญชีแยกประเภทดิจิทัลที่ใช้ร่วมกันอยู่เบื้องหลัง
อ้างอิง:
- https://www.channelnewsasia.com/business/no-red-line-against-central-bank-digital-currency-boes-hauser-says-2721411
- https://www.cnbc.com/2022/06/01/binance-raises-500-million-fund-to-invest-in-web3-startups.html
- https://www.aljazeera.com/economy/2022/6/1/musk-to-tesla-employees-return-to-office-or-get-out