×

‘ออริจิ้น’ แยก ‘บริทาเนีย’ ผู้พัฒนาโครงการแนวราบเข้า IPO คาดยื่นไฟลิ่งไตรมาส 3/2564 ย้ำจะไม่ทำโครงการแข่งกันในอนาคต

09.07.2021
  • LOADING...
บริษัท บริทาเนีย

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีมติอนุมัติแผนการนำบริษัท บริทาเนีย จำกัด (BRI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

 

บริทาเนียก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2560 เพื่อทำโครงการแนวราบโดยเฉพาะ ทั้งเบลกราเวีย บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี, แกรนด์บริทาเนีย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด, บริทาเนีย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม และไบรตัน บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม และมียอดพัฒนาโครงการสะสมถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 15 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 19,500 ล้านบาท

 

คาดว่าจะสามารถไฟลิ่งในไตรมาส 3/2564 เบื้องต้นคาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และผู้ลงทุนประเภทอื่นๆ รวมทั้งหมดคิดเป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 30.00 ของทุนชำระแล้ว

 

“แผนการ Spin-Off เพื่อนำ BRI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริทาเนียให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับต่อยอดสู่การพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ทั้งยังเอื้อต่อการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจบ้านจัดสรรให้ครอบคลุมความต้องการของตลาดยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทฯ ให้มีแนวโน้มที่ดีและสร้างความมั่นคงในระยะยาว” พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์นั้น ORI ระบุว่า คณะกรรมการได้อนุมัติเข้าทำสัญญาไม่แข่งขันทางธุรกิจกับบริษัท บริทาเนีย จำกัด อีกด้วย

 

ผลประกอบการของ BRI ในปี 2562 มีรายได้รวม 1,556.80 ล้านบาท กำไรสุทธิ 207.14 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้รวม 2,336.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 348.72 ล้านบาท และงวด 3 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีรายได้รวม 834.75 ล้านบาท กำไรสุทธิ 130.68 ล้านบาท 

 

สำหรับ ORI ปัจจุบันธุรกิจประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 

 

  1. ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย โดยพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 86 โครงการ (สถานะ ณ สิ้นไตรมาส 2/2564) รวมมูลค่าโครงการกว่า 134,000 ล้านบาท 

 

  1. ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 

 

  1. ธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X