พรีเมียร์ลีกแถลงยืนยันการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยกลุ่มทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ในราคา 300 ล้านปอนด์
หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเทกโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิล ทีมฟุตบอลดังทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ที่ติดขัดมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีกลาย เนื่องจากมีเรื่องความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบียกับกาตาร์ ที่มีการสั่งแบนช่องกีฬา beIN SPORTS ก่อนจะมีการยอมยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว จนทำให้การเจรจากลับมาเดินหน้าต่อได้อีกครั้งนั้น ล่าสุดพรีเมียร์ลีกได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการเปลี่ยนเจ้าของสโมสรอย่างเป็นทางการ
แถลงการณ์จากพรีเมียร์ลีกระบุว่า “พรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล และบริษัทเซนต์ เจมส์ โฮลดิง ได้ยุติข้อขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องการเข้าควบรวมกิจการของสโมสร โดยการร่วมทุนของ PIF, PCP Capital Partners และ RB Sports & Media
“จากข้อขัดแย้งทางกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องของผู้ที่จะได้ครอบครองและสามารถบริหารกิจการสโมสรหลังการควบรวมกิจการ ตอนนี้ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันว่าจำเป็นที่จะต้องหาข้อตกลงร่วมกันเพื่อยุติความไม่ชัดเจนต่อแฟนๆ เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของกิจการของสโมสร
“ทุกฝ่ายมีความยินดีที่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ และสามารถมอบความชัดเจนให้แก่สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลและแฟนๆ ได้”
สำหรับเจ้าของใหม่นิวคาสเซิล ผู้ถือหุ้นใหญ่คือกองทุน Public Investment Fund (PIF) ที่จะถือหุ้น 80 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือเป็นกองทุนที่นำมาโดย อแมนดา สเตฟลีย์ ซึ่งเป็นนายหน้าที่ทำการเจรจาครั้งนี้จนลุล่วง และ รูเบน บราเธอร์ส อีกฝ่ายละ 10 เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการที่นิวคาสเซิลจะกลายเป็นสโมสรฟุตบอลที่มั่งคั่งที่สุดทีมหนึ่งของโลกเมื่อได้รับการสนับสนุนจากทุนของซาอุดีอาระเบีย เหมือนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้รับการสนับสนุนจากอาบูดาบีและกาตาร์
ขณะที่คนที่ถูกจับตามองอีกคนคือ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบัน ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอล อาจจะถูกแทนที่โดยโค้ชระดับชั้นนำอย่าง อันโตนิโอ คอนเต หรือ ซีเนดีน ซีดาน
ภาพ: nufc.co.uk