ประชาชนหลายพันคนในอย่างน้อย 13 รัฐทั่วบราซิล ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วง เรียกร้องให้ถอดถอนประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู ท่ามกลางความไม่พอใจต่อความล้มเหลวในการรับมือวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด และความล่าช้าในการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
โดยการประท้วงมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ (2 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา โรซา เวเบอร์ ผู้พิพากษาศาลสูงของบราซิลมีคำสั่งให้เปิดการสืบสวนคดีอาญาแก่ประธานาธิบดีโบลโซนารู จากกรณีการละเว้นหรือชะลอการดำเนินการต่อคดีคอร์รัปชันภายในกระทรวงสาธารณสุข ที่เกี่ยวกับความผิดปกติในการจัดหาวัคซีนที่พัฒนาในอินเดีย
ขณะที่อัยการจะดำเนินการสืบสวนผู้นำบราซิลว่ามีส่วนในการกระทำผิดทางอาญา จากการหลบเลี่ยง ชะลอหรือละเว้นการดำเนินการที่จำเป็นตามหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ ขณะที่อาจมีการสืบสวนการกระทำผิดอื่นๆ ด้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ประธานาธิบดีโบลโซนารูนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงนามสัญญาสั่งซื้อวัคซีนจำนวน 20 ล้านโดส มูลค่า 316 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,150 ล้านบาท กับบริษัทตัวแทนของบริษัท Bharat Biotech ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของอินเดีย
ซึ่งคณะกรรมาธิการวุฒิสภาของบราซิลได้ดำเนินการสอบสวนและตั้งข้อสังเกตว่า สัญญาสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าวอาจมีราคาสูงเกินจริง และอาจมีการคอร์รัปชันเกิดขึ้น ขณะที่รัฐบาลบราซิลตัดสินใจยกเลิกสัญญาสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าว หลังเผชิญแรงกดดันและกระแสวิจารณ์เรื่องความผิดปกติในการทำสัญญา
ความผิดปกติในการสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสเรียกร้องของประชาชนบราซิล ที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนเพื่อยับยั้งสถานการณ์แพร่ระบาดที่ยังรุนแรง
โดยปัจจุบันบราซิลยังมียอดผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 60,000 คน และเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 1,000-2,000 คน โดยยอดผู้ติดเชื้อสะสมตอนนี้มากกว่า 18.7 ล้านคน และเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก มากกว่า 520,000 คน
ขณะที่รัฐบาลบราซิลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากความล่าช้าในการจัดหาวัคซีน ซึ่งที่ผ่านมาประธานาธิบดีโบลโซนารูยังปฏิเสธที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนและแสดงความไม่เชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนเพื่อยับยั้งการระบาด อีกทั้งยังสนับสนุนการรักษาที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และประเมินความรุนแรงในการแพร่ระบาดของโรคโควิดต่ำเกินไป โดยเคยเรียกไวรัสว่าเป็นเพียงไข้หวัดเล็กน้อย และยังต่อต้านการล็อกดาวน์และการสวมหน้ากากอนามัยด้วย
ภาพ: Photo by Cristina Szucinski / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
