ในสภาวะที่ธุรกิจค้าปลีกต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ล่าสุด Bravo BKK ได้ประกาศกลยุทธ์สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 โดยมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ ผ่านการดึงดูดพันธมิตรคู่ค้ารายใหม่เป็นหลัก
โกห์ ซู ซิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บราโว บีเคเค จำกัด ระบุว่า บริษัทได้วางตำแหน่งทางการตลาดให้ Bravo BKK เป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่เน้นการสร้างประสบการณ์ให้แตกต่างจากศูนย์การค้าทั่วไป
จากการมีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมหลายรูปแบบและผู้เช่าส่วนใหญ่ที่เป็นธุรกิจสายเอ็นเทอร์เทนเมนต์ ทำให้ Bravo BKK ถูกใช้เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ตนานาชาติ, งานแฟนมีตติ้ง และเวทีประกวดต่างๆ เช่น Miss Grand Thailand และ Miss Universe Thailand (MUT)
นอกจากนี้ การมีโซนกีฬาในร่ม (Indoor Sport Active Zone) เช่น สนามพิกเกิลบอลและลานสเกต ถือเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการรับรู้ของศูนย์ฯ ในฐานะ Lifestyle Creative Hub
โกห์ ซู ซิง กล่าวว่า แม้จะมีการรับรู้ในกลุ่มเฉพาะ แต่ในภาพรวมยังต้องขยายไปสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง กลยุทธ์สำคัญจึงเป็นการเพิ่มพันธมิตรคู่ค้าด้วยแคมเปญ ‘One Year Zero Rent’ เพื่อดึงดูดแบรนด์ใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, ความงาม, เวลเนส, ฟิตเนส, การศึกษา และรีเทล
แคมเปญ One Year Zero Rent คือการให้ข้อเสนอเช่าพื้นที่ฟรีนาน 12 เดือน เมื่อเซ็นสัญญาเช่า 3 ปี โดยในปีที่สองจะได้รับส่วนลดค่าเช่า 50% และชำระในอัตราปกติในปีที่สาม แคมเปญนี้เปิดรับสมัครร้านค้าตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568
เป้าหมายของแคมเปญนี้คือการเพิ่มผู้เช่ารายใหม่ให้ได้ 50% ภายใน 3 เดือนแรก และเติมเต็มพื้นที่ว่างอย่างน้อย 60-80% ภายใน 6 เดือน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าใช้บริการโดยรวมของศูนย์ฯ ได้ไม่ต่ำกว่า 30%
ขณะเดียวกัน Bravo BKK จะดำเนินกลยุทธ์ Event Lead Awareness เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น นิทรรศการศิลปะ, ตลาด Night Market, กิจกรรมสำหรับสัตว์เลี้ยง และการร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ อีกด้วย
ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้กลยุทธ์การตลาด 3 แกนหลัก คือ Flexible Space, Curated Use (การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่น), Culture-Driven Programming (การสร้างคอนเทนต์) และ Smart Partnerships (การร่วมมือกับพันธมิตร) โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่สู่การเป็น Urban Creative Playground หรือศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของคนเมือง