ในยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ ‘สินค้า’ แต่โหยหา ‘ความหมาย’ และ ‘ประสบการณ์’ การสื่อสารของแบรนด์จึงต้องปรับตัวครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่การตะโกนบอกว่า ‘ฉันดีอย่างไร’ แต่เป็นการกระซิบเบาๆ ผ่านเรื่องราวที่จับใจ ให้ผู้คนรู้สึกร่วมและผูกพัน
แพลตฟอร์มหนึ่งที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์กับผู้คนในยุคนี้ก็คือ ‘Brand Films’ ที่ไม่ใช่แค่โฆษณาขายของแบบเดิมๆ แต่เป็นการลงทุนสร้างสรรค์เรื่องเล่าที่ลึกซึ้งและน่าจดจำ
ลองนึกภาพตามง่ายๆ Brand Films ไม่ได้พยายามยัดเยียดให้คุณซื้อคอนโดหลังใหม่ในทันทีที่ดูจบ แต่จะพาคุณไปสัมผัสกับ ‘ชีวิตที่ดี’ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในพื้นที่นั้นๆ ผ่านภาพสวยๆ เรื่องราวอบอุ่น หรือแม้แต่จังหวะดนตรีที่ปลุกเร้าอารมณ์ มันคือการสร้าง ‘ภาพจำ’ และ ‘ความรู้สึก’ ที่แข็งแรงให้กับแบรนด์ ซึ่งในระยะยาว สิ่งเหล่านี้มีพลังมากกว่าการลดราคาหรือโปรโมชันฉาบฉวยเสียอีก
ส่องปรัชญา ‘ชีวิตดี ทุกวันที่บ้าน’ ผ่านเลนส์ Brand Films ของแสนสิริ
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจและสะท้อนการใช้ Brand Films ได้อย่างเห็นภาพคือแคมเปญล่าสุด ‘Every day… Life is good ทุกวัน ชีวิตดี’ จากแสนสิริ ที่เลือกจะเล่าเรื่องผ่าน Brand Films ถึง 12 เรื่อง
แต่ละเรื่องคือภาพแทนของ ‘โมเมนต์’ ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขของครอบครัวหลากหลายเจเนอเรชัน คู่รักข้าวใหม่ปลามัน คนโสดที่รักอิสระ หรือแม้แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนบ้านและน้องหมาแสนรัก
ความน่าสนใจคือการเลือกใช้สไตล์การถ่ายทำแบบ ‘Cinematic’ ในโทนภาพขาว-ดำที่ทรงพลัง ซึ่งตัดกับเพลงประกอบแนว Electro Funk อย่าง ‘Don’t Wait Up’ ของวง Midnight Generation ที่ใส่จังหวะสนุกๆ เข้าไป
นี่คือการจงใจสร้าง ‘ความแตกต่าง’ ที่สะท้อน DNA ของแสนสิริที่ไม่เหมือนใคร และที่สำคัญ ทุกฉากทุกตอนถ่ายทำในโครงการจริงของแสนสิริ เพื่อให้เห็นว่า ‘ชีวิตที่ดี’ นั้นเริ่มต้นได้จากที่ ‘บ้าน’ ที่ซึ่งเราใช้เวลาในทุกๆ วัน
ศรีอำไพ รัตนมยูร ประธานผู้บริหารสายงานการตลาดของแสนสิริ ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “สิ่งสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ คือเราเชื่อมั่นในเรื่องการสื่อสารแก่นแท้ของแบรนด์ ที่ยึดมั่นในปรัชญาของ Constructing Life, Not Just Building กล่าวคือ แสนสิริมุ่งมั่นในการสร้างบ้านที่มากกว่าที่อยู่อาศัย แต่คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความสุขให้กับทุกคน”
คำพูดนี้ตอกย้ำว่า Brand Films ทั้ง 12 เรื่อง ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อขายบ้าน แต่เพื่อสื่อสารปรัชญาที่ลึกซึ้งกว่านั้น
Brand Films ไม่ใช่ TVC ตอนยาว แต่มันคือ ‘ศิลปะ’ ของการเล่าเรื่อง
หลายคนอาจจะสับสนว่า Brand Films ต่างจากโฆษณาทางทีวี (TVC) แบบเดิมๆ อย่างไร คำตอบง่ายๆ คือ Brand Films ให้อิสระในการเล่าเรื่องมากกว่า ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยกรอบเวลาสั้นๆ หรือต้องเน้นการขายสินค้าอย่างโจ่งแจ้ง
แต่การใช้ ‘ศิลปะ’ ของภาพยนตร์มาสร้างสรรค์เรื่องราวที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นความคิด หรือสร้างความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้ชมได้ยาวนานกว่า
หัวใจสำคัญของ Brand Films คือการหา ‘แก่นแท้’ (Essence) ของแบรนด์ให้เจอ แล้วนำมาขยี้ผ่านเรื่องเล่าที่ ‘จริง’ และ ‘เชื่อมโยง’ กับชีวิตของผู้คนได้
เหมือนที่แสนสิริพยายามจะบอกว่า “เพราะเราเข้าใจว่า วันนี้สภาพแวดล้อมรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแบบเฉพาะตัว แสนสิริจึงมุ่งมั่นในการศึกษาความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง พิถีพิถันและ customized ทุกรายละเอียด เพื่อออกแบบและสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล”
Brand Films จึงเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์นี้ได้อย่างดีเยี่ยม
การที่แบรนด์กล้าที่จะลงทุนกับ Brand Films นั่นหมายถึงการมองเกมยาว พวกเขาไม่ได้หวังผลแค่ยอดขายในระยะสั้น แต่กำลังสร้าง ‘สินทรัพย์ทางอารมณ์’ (Emotional Equity) ที่จะผูกมัดใจลูกค้าไว้กับแบรนด์ในระยะยาว
เมื่อผู้คนรู้สึกดีกับแบรนด์ เชื่อมั่นในปรัชญาของแบรนด์ โอกาสที่พวกเขาจะเลือกแบรนด์นั้นๆ เมื่อถึงเวลาที่ต้องการสินค้าหรือบริการย่อมมีสูงกว่าคู่แข่งที่เน้นแต่การแข่งขันด้านราคา
อนาคตของ Brand Films กับการสร้าง ‘ตัวตน’ ที่จับต้องได้
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารและการแข่งขันที่ดุเดือด Brand Films กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง ‘ตัวตน’ (Brand Identity) ที่ชัดเจนและแตกต่างออกมาจากคู่แข่งได้ มันไม่ใช่แค่การสื่อสารแบบทางเดียว แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้เข้ามามี ‘ประสบการณ์ร่วม’ ผ่านเรื่องราวที่แบรนด์นำเสนอ
การสร้าง Brand Films ที่ดีต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งว่าพวกเขาสนใจอะไร มีความฝันแบบไหน หรือกำลังมองหาอะไรในชีวิต จากนั้นจึงนำอินไซต์เหล่านั้นมาพัฒนาเป็นเรื่องราวที่ ‘โดนใจ’ และสามารถสร้าง ‘อิมแพ็กต์’ ในวงกว้างได้ เหมือนที่แคมเปญของแสนสิริพยายามจะสื่อสาร 12 โมเมนต์แห่งความสุข ที่สะท้อนภาพชีวิตในแบบที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง
เมื่อ Brand Films ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นแค่ ‘โฆษณา’ แต่เป็น ‘คอนเทนต์’ ที่มีคุณค่าในตัวเอง มันจะสามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าช่องทางเดิมๆ ของแบรนด์ ผู้คนจะเต็มใจที่จะ ‘แชร์’ และ ‘พูดถึง’ ด้วยความรู้สึกชื่นชม กลายเป็นกระบอกเสียงที่ทรงพลังยิ่งกว่าสื่อใดๆ เสียอีก
นี่คือเสน่ห์และความท้าทายของ Brand Films ที่นักการตลาดและคนทำโฆษณายุคใหม่ต้องหันมาให้ความสำคัญ เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เรื่องราวที่ ‘ใช่’ และ ‘จริงใจ’ เท่านั้นที่จะสามารถเอาชนะใจผู้บริโภคในระยะยาวได้
มาร่วมดื่มด่ำกับโมเมนต์พิเศษทั้ง 12 เรื่องราวนี้ ได้ที่ https://siri.ly/BtYxlB5 และทุกช่องทางของ Sansiri PLC