ทางการบูเกนวิลล์ เขตปกครองตนเองในปาปัวนิวกินี จัดการลงประชามติขึ้น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ถึง 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุด มีการประกาศผลการลงประชามติอย่างเป็นทางการแล้ว โดยชาวเกาะบูเกนวิลล์ถึง 176,928 คน หรือคิดเป็น 98.31% จากผู้เดินทางมาลงประชามติทั้งหมด 181,067 คน ต่างลงคะแนนสนับสนุนให้ทางการประกาศเอกราชจากปาปัวนิวกินี โดยสาเหตุสำคัญมาจากสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจ
การทำประชามติดังกล่าวเป็นผลมาจากข้อตกลงสันติภาพ (Bougainville Peace Agreement) ระหว่างรัฐบาลปาปัวนิวกินีและรัฐบาลท้องถิ่นบูเกนวิลล์ ที่จะเปิดโอกาสให้มีการจัดประชามติเกี่ยวกับเอกราชขึ้น หลังมีการทำสงครามแบ่งแยกดินแดนยาวนานถึง 9 ปี นับตั้งแต่ปี 1988 โดยผลการลงประชามติจะยังไม่มีผลผูกพันในทันที และอำนาจในการตัดสินใจสุดท้ายเกี่ยวกับอนาคตของบูเกนวิลล์จะยังคงเป็นของรัฐบาลปาปัวนิวกินี
เดิมทีบูเกนวิลล์เคยมีความพยายามที่จะประกาศเอกราชจากปาปัวนิวกินีแล้วตั้งแต่ช่วงที่ปาปัวนิวกินีประกาศเอกราชจากออสเตรเลียและเริ่มปกครองตนเอง เมื่อปี 1975 แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ผลประชามติที่ท่วมท้นนี้ สร้างแรงกดดันให้แก่รัฐบาลปาปัวนิวกินีที่ต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนและประกาศเอกราชอยู่ไม่น้อย
หากบูเกนวิลล์ได้รับโอกาสให้เริ่มต้นกระบวนการประกาศเอกราชโดยสมบูรณ์จากปาปัวนิวกินีจริง บูเกนวิลล์จะเป็นประเทศที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะที่มีพื้นที่น้อยกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใกล้เคียงเลบานอน ไซปรัส และเปอร์โตริโก มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทองแดงและทองคำ
ภาพ: Ness Kerton / AFP via Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.nytimes.com/2019/12/11/world/asia/bougainville-independence-papua-new-guinea.html
- www.theguardian.com/world/2019/nov/20/birth-of-a-nation-bougainvilles-referendum-explained
- www.bbc.com/news/world-asia-50739203
- time.com/5748173/bougainville-independence-papua-new-guinea/