ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลพวงที่โควิดได้ฝากไว้ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนทั่วโลกเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลสุขภาพไปโดยสิ้นเชิง แต่ยังเปลี่ยนให้คนอีกจำนวนไม่น้อยเริ่มปรับพฤติกรรมการเดินทาง การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่มากขึ้น และทำให้นิยาม ‘Workcation’ หรือการเที่ยวไปด้วย พักผ่อนไปด้วย ทำงานไปด้วย ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
แม้ปัจจุบันที่สภาวะโรคระบาดโควิดเริ่มซาลงแล้ว หลายประเทศเปิดให้เดินทางข้ามพรมแดนได้มากขึ้น ลดระดับความเข้มงวดในเชิงมาตรการต่างๆ ให้ทุเลาลง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อยคือ ‘ประเทศไทย’ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตก็ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่โปรดปรานของเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ดี
เช่นเดียวกับนิยาม Workcation ที่นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเริ่มขยับขยายไปสู่การมองถึงความเป็นไปได้ในการเข้ามามองหาโครงการอสังหาเทียร์บนระดับลักชัวรีเพื่อไว้รับรองในยามที่พวกเขาต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว หรืออยู่อาศัยยังประเทศไทย
เรื่องเดียวกันนี้ได้ส่งผลต่อเนื่อง และทำให้ชื่อของ ‘BOTANICA’ ในฐานะผู้พัฒนาโครงการวิลล่าหรูระดับลักชัวรีในภูเก็ตถูกพูดถึงมากขึ้นไม่ขาดสาย ควบคู่ไปพร้อมๆ กันกับการที่วิลล่าของพวกเขาได้รับความสนใจ จนปี 2565 สามารถปิดยอดขายไปได้มากกว่า 5,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมากของบริษัท ภายใต้การนำของแม่ทัพอย่าง อรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง โบทานิก้า ลักชัวรี วิลล่า
อันที่จริงแล้ว หากเราตัดประเด็นเทรนด์การเดินทางเข้ามายังประเทศไทยของชาวต่างชาติเพื่อท่องเที่ยว พำนักชั่วคราว หรือย้ายถิ่นฐานถาวรออกไป ก็ต้องบอกตามตรงว่า ชื่อเสียงของ BOTANICA นั้นเป็นที่ยอมรับในหมู่นักท่องเที่ยวเทียร์บน ผู้บริหาร ผู้ประกอบการที่ชื่นชอบวิลล่าหรูตากอากาศในภูเก็ตอยู่แล้ว
แล้วอะไรกันแน่ที่ทำให้ BOTANICA ประสบความสำเร็จ และก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูในประเทศไทยได้อย่างน่าจับตา?
หยิบเอา ‘ความหรูหรา’ มาสอดประสานเข้ากับท่วงทำนองของ ‘ธรรมชาติ’ ได้อย่างสุนทรีย์และมีรสนิยม
แค่ชื่อของ BOTANICA ก็พอจะบอกได้เป็นนัยอยู่แล้วว่า โครงการแห่งนี้ให้ความสำคัญกับแนวคิดด้านต้นไม้ ธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของสรรพสิ่งมากเพียงไร
จุดยืนของแบรนด์ BOTANICA จะชัดเจนมากๆ ในแง่ของการหยิบเอาความร่มรื่นของธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้นานาพันธ์ุ มาผสมผสานเข้ากับการออกแบบสถาปัตยกรรมที่มีความหรูหราเข้าด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์และลงตัว
ที่สำคัญในทุกๆ พื้นฐานการออกแบบโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BOTANICA Sky Valley, BOTANICA Forestique, BOTANICA Foresta, BOTANICA Modern Loft ไม่เพียงแต่จะโฟกัสไปที่ความสวยงาม ความหรูหรา หรือความน่าอยู่เท่านั้น แต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะนึกถึงความสะดวกสบาย ฟังก์ชันการใช้งาน และหลักคิดที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญในระยะยาวอีกด้วย
นั่นจึงทำให้องค์ประกอบหลักทั้ง 3 ข้อที่เป็นพื้นฐานการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย อสังหาฯ และการผลิตความสุขอย่างยั่งยืนโดย BOTANICA จะประกอบไปด้วย
- ธรรมชาติ: ในที่นี้ครอบคลุมตั้งแต่แสงแดด, อากาศ, ฝน, ผืนดิน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการ เฉกเช่นเดียวกันกับดีไซน์ของบ้าน ซึ่ง BOTANICA ได้ออกแบบโครงการแต่ละแห่งเพื่อให้ผู้อยู่ได้ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด ผ่านงานดีไซน์ งานออกแบบ การยกเพดานให้สูงโปร่งโล่งเพื่อความสะดวกสบาย ไปจนถึงทำเลที่ตั้ง และแนวคิดที่สอดแทรกอยู่ในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวโครงการในทุกดีเทล
- ดีไซน์: ในเชิงการออกแบบโครงการโดย BOTANICA จะจำแนกโครงการออกเป็น 4 ดีไซน์หลักๆ คือ Tropical Balinese Design, Modern Luxury Design, Modern Loft Design และที่ขาดไม่ได้คือ The Ultra-Luxury Design
- คุณภาพ: ที่ BOTANICA ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัสดุและงานออกแบบก่อสร้างเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ตัวโครงการเน้นจับตลาดลักชัวรี ดังนั้นวิลล่าทุกหลัง ทุกโครงการจึงได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุที่มีคุณภาพดีที่สุด
โดยที่การออกแบบโครงการทุกหลังจะต้องตอบโจทย์ในเชิงการใช้งานได้จริง อยู่แล้วมีความสุขและสะดวกสบาย แถมในระยะยาวหากตัวผู้อยู่อาศัยต้องการจะปล่อยเช่าเพื่อการลงทุนหรือขายต่อก็ยังสามารถทำราคาได้ดี
ไม่เพียงเท่านั้น การที่อรรถสิทธิ์ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร BOTANICA มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 16 ปีในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูในจังหวัดภูเก็ต ทั้งยังเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียง และประสบการณ์เจนจัดในแวดวงคนหนึ่ง (เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสถาปนิกชื่อดัง AAP Architecture Properties & Development) ยังถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้โครงการของ BOTANICA คิด สร้าง และออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อความสุข ความสบายใจ และสบายกายของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
จาก Balinese Design สู่ Ultra-Luxury ทุกคอนเซปต์คือการเคี่ยวกรำความมุ่งหวังในการสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมา
ในปัจจุบัน แบบบ้านหรือวิลล่าที่ออกแบบโดย BOTANICA จะประกอบไปด้วย 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็ล้วนแล้วแต่ขับเสน่ห์ อัตลักษณ์ของตนเองออกมาได้อย่างชัดเจน
- Balinese Design: รูปแบบการดีไซน์แรกเริ่มที่ทำให้ BOTANICA ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง และถือว่าเป็นการออกแบบที่เป็นซิกเนเจอร์ดีไซน์ของบริษัท
- Modern Luxury Design: ปรับรูปแบบและการออกแบบฟังก์ชันตัวบ้านมาจาก Balinese Design โดยเพิ่มความทันสมัย และความโล่งโปร่งสบายให้มากขึ้น
- Modern Loft: วิลล่าสไตล์ Loft ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านพักตากอากาศพูลวิลล่า เน้นความสะดวกสบายในการพักอาศัย ที่มาในราคาที่คนรุ่นใหม่สามารถจับต้องได้มากยิ่งขึ้น
- Ultra-Luxury: ดีไซน์วิลล่าสุดหรูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรือยอชต์ เป็นสุดยอดที่พักระดับไฮเอนด์ที่ผสมผสานความหรูหรา กับงานออกแบบที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายแห่งความโค้งมน ตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งภูเขาและทะเล
ซึ่งแบบบ้านรูปแบบต่างๆ ของ BOTANICA ได้รับรางวัลการันตีถึงความเป็นเลิศในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น รางวัลชนะเลิศ Best Luxury Villa Development จาก DOT Property Southeast Asia Awards, รางวัล FIABCI-THAI PRIX D’EXCELLENCE AWARDS, รางวัล Best Landscape Architecture Thailand in Asia-Pacific Awards ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
และรางวัล Best Housing Development Phuket และ Best Luxury Housing Architectural Design (Upcountry) ที่มอบให้โดย PropertyGuru Thailand Property Awards เมื่อปีที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ
อีกจุดเด่นสำคัญของโครงการที่พัฒนาโดย BOTANICA คือทุกโครงการอสังหาของพวกเขาจะตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ไร้ซึ่งข้อจำกัดในจังหวัดภูเก็ต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน
หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของ BOTANICA โครงการใดก็ตาม ไม่เพียงแต่คุณและคนที่คุณรักจะได้ใช้ชีวิตในที่พัก วิลล่าหรูที่ดีต่อใจเท่านั้น แต่ทุกๆ มูฟเมนต์ในจังหวะชีวิตของคุณที่ BOTANICA จะสามารถเติมเต็มความสุข ความเป็นอยู่ที่ดี ยกระดับคุณภาพชีวิต และเติมเต็มทุกการอยู่อาศัยในภูเก็ต
หากสนใจข้อมูลตัวโครงการเพิ่มเติม สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่
Facebook Page: BOTANICA Luxury Villa
หรือโทร 0 98394 7097
