ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับปรุงแนวทางการออกใบอนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank สั่งห้ามผู้บริหารและพนักงานทำงานให้สถาบันการเงินอื่นในเวลาเดียวกัน ห้ามเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นในช่วง 3-5 ปีแรก และห้ามใช้งานระบบ IT ที่สำคัญร่วมกับสถาบันการเงินรายอื่น พร้อมเปิดรับฟังความเห็นเพิ่มเติมถึงวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 ก่อนเสนอเกณฑ์สุดท้ายให้กระทรวงการคลังพิจารณา
ในวันนี้ (19 มิถุนายน) ธปท. ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ ธปท. ได้เปิดรับฟังความเห็นต่อแนวทางการอนุญาตให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ระหว่างวันที่ 12 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2566 นั้น ธปท. ได้รับความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และผู้ประกอบธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับวัตถุประสงค์และแนวทางการอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank ในภาพรวม และมีการสอบถามรายละเอียดของหลักเกณฑ์ในหลายมิติ ซึ่งบางประเด็นมีความสำคัญและอาจกระทบการตัดสินใจหรือการออกแบบแผนงานของผู้สมัคร รวมถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจของ Virtual Bank ที่จะถูกจัดตั้ง
ดังนั้น ธปท. จึงนำความเห็นที่ได้รับมาปรับปรุงแนวทางการอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank โดยขยายความในประเด็นที่สำคัญให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้สมัครทุกรายได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจอย่างเพียงพอและเท่าเทียมกัน โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
- สิ่งที่อยากเห็น (Green Line) และสิ่งที่ไม่อยากเห็น (Red Line) ยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า ธปท. อยากเห็น Virtual Bank ช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในระบบสถาบันการเงินอย่างเหมาะสม โดยจัดให้มีกลไกที่รองรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการรายอื่นภายใต้สิทธิของลูกค้าตามกฎหมาย อันสอดคล้องกับแนวนโยบายการเปิดให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Open Data) ของ ธปท. และไม่อยากเห็น Virtual Bank กีดกันหรือสร้างอุปสรรคในการส่งหรือโอนข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากลูกค้า ไปยังผู้ให้บริการรายอื่นภายใต้สิทธิของลูกค้าตามกฎหมาย
- คุณสมบัติสำคัญของผู้ขอจัดตั้ง Virtual Bank ขยายความให้ชัดเจนขึ้น ดังนี้
2.1 ด้านธรรมาภิบาล เพิ่มรายละเอียดว่า ห้ามมิให้กรรมการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือที่ปรึกษาของ Virtual Bank ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือพนักงานของสถาบันการเงินแห่งอื่นในเวลาเดียวกัน เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้บุคลากรดังกล่าวสามารถอุทิศเวลาในการบริหารจัดการงานได้อย่างเต็มที่
2.2 ด้านการใช้เทคโนโลยีและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่ยืดหยุ่น มั่นคง ปลอดภัย สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มรายละเอียดว่า Virtual Bank ต้องไม่ใช้งานระบบ IT ที่สำคัญร่วมกับสถาบันการเงินรายอื่น เช่น ระบบ Core Banking, ระบบ Mobile Banking และระบบ Internet Banking เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความเชื่อมโยงและการพึ่งพาระหว่างกัน (Contagion Risk) ข้อมูลรั่วไหล และภัยคุกคามด้านไซเบอร์
2.3 ด้านการเข้าถึง บริหารจัดการ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่หลากหลาย เพิ่มรายละเอียดว่า ผู้ขอจัดตั้ง Virtual Bank ต้องแสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการข้อมูลที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) และความสามารถในการพัฒนาระบบข้อมูลและการเชื่อมต่อ เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าในการนำข้อมูลของตนไปใช้ทำธุรกรรมกับผู้ให้บริการทางการเงินรายอื่น
- การคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมให้จัดตั้ง Virtual Bank เพิ่มรายละเอียดว่า ธปท. จะคัดเลือกองค์ประกอบของผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงการช่วยตอบโจทย์ Green Line ได้อย่างมีคุณภาพ ยั่งยืน และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจการเงินไทยในภาพรวม
- เงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเงื่อนไขการดำเนินกิจการในช่วง 3-5 ปีแรกของ Virtual Bank (ช่วง Phasing) ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นที่มีนัยต่อความสำเร็จของ Virtual Bank เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอันควร เนื่องจากผู้ถือหุ้นดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการสร้างธุรกิจในช่วงเริ่มต้นกิจการ
ทั้งนี้ เพื่อให้มี Virtual Bank ในประเทศไทยที่สามารถนำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ ที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของผู้ใช้บริการทางการเงินแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธปท. จึงขอเปิดรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank อีกครั้งในส่วนที่มีการเพิ่มรายละเอียดหรือเงื่อนไขอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน – 4 กรกฎาคม 2566 โดยสามารถส่งความเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของ ธปท. หรือทางอีเมล [email protected]
ธปท. จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาประกอบการจัดทำหลักเกณฑ์การอนุญาตให้จัดตั้ง Virtual Bank โดยคาดว่าจะเสนอหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้กระทรวงการคลังพิจารณาภายในเดือนกรกฎาคม 2566