วันนี้ (19 พฤศจิกายน) วิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล กล่าวว่า วันนี้ทีมทนายนำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้บอสพอลลงชื่อมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ พัช-กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และ ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หลังปรากฏคลิปเสียงเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท
วิฑูรย์กล่าวว่า บอสปัน-ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ผู้ต้องหาคดีดิไอคอนกรุ๊ปได้รับความเสียหาย ถึงแม้ว่าความผิดยังไม่สำเร็จแต่มีความพยายามในการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องหารือกับพนักงานสอบสวนว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์หรือพยายามฉ้อโกง
ส่วนตัวมองว่าทั้งกฤษอนงค์และรัฐภูมิน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่ากรรโชกทรัพย์ เพราะคลิปเสียงมีเนื้อหาที่พยายามข่มขู่ให้จ่ายเงิน ซึ่งพฤติกรรมในคลิปมีการพยายามช่วยและจะให้โอนเงินเพื่อไปออกรายการโหนกระแส
วันนี้จะคุยรายละเอียดกับบอสพอลและเหล่าบอสชาย 11 คนให้เรียบร้อย รวมถึงพูดคุยเรื่องวันพรุ่งนี้ (20 พฤศจิกายน) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จะเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติมหลังจากที่มีกำหนดการสอบสวน ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นพฤติการณ์ของคดีโดยละเอียด
วิฑูรย์กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้เดินทางไปยื่นประกันตัว บอสวิน-ธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ โดยแนบพยานหลักฐาน เอกสารใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับอาการป่วยโรคมะเร็งระยะที่ 3 แต่ศาลยกคำร้องเหมือนกับเคสของ 3 บอสดารา เพราะกลัวจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก
หลังจากนี้จะไม่ยื่นประกันตัวแล้ว เพราะขนาดบอสวินเป็นโรคมะเร็งยังไม่ได้รับการพิจารณา ดังนั้นจึงจะไปหารือกับทีมทนายเพื่อขอยื่นประกันตัวในช่วงเวลาการฝากขังผัดที่ 6 หรือ 7 ส่วนเหล่าบอสทั้ง 18 คน หลังจากทราบว่าบอสวินไม่ได้รับการประกันตัวก็ไม่มีท่าทีขวัญเสีย เพราะแต่ละคนเริ่มปรับตัวได้แล้ว แต่แค่อยากให้เพื่อนที่ป่วยหนักออกไปก่อน พร้อมกับยืนยันว่า ในที่สุดหากไม่ได้รับการประกันตัว บอสวินก็จะใช้แนวทางต่อสู้ตาม พ.ร.บ.ใหม่ของการคุมขังนักโทษ ด้วยการย้ายไปคุมขังที่โรงพยาบาลด้านนอก
กรณีที่กฤษอนงค์ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ วิฑูรย์กล่าวว่า ทั้ง 18 บอสทราบข่าวแล้วไม่มีท่าทีอะไร เชื่อว่าทางกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการแยกตัวไปอยู่คนละแดนกับบอสต่างๆ แต่เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น อาบน้ำ กินข้าว ก็อาจจะต้องเจอกัน แต่เหล่าบอสไม่ได้อยากเจอ