บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างกะทันหันวานนี้ (9 มิถุนายน) เพื่อแสดงการประท้วงอย่างรุนแรงต่อบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติที่สอบสวนพฤติกรรมของเขาเกี่ยวกับกรณี Partygate ส่งผลให้เกิดรอยร้าวขึ้นอีกครั้งในพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ก่อนอังกฤษจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า
ในช่วงที่ผ่านมา จอห์นสันถูกคณะกรรมการสิทธิประโยชน์ของรัฐสภาดำเนินการสอบสวนว่า เขาชี้นำให้รัฐสภาเข้าใจผิดเกี่ยวกับการจัดงานเลี้ยงในทำเนียบนายกรัฐมนตรี ในช่วงเวลาที่อังกฤษกำลังล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดหรือไม่
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม จอห์นสันเคยออกมายอมรับว่า เขาทำให้รัฐสภาเข้าใจผิดจริงเกี่ยวกับกรณีการจัดงานเลี้ยงที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษบนถนนดาวนิง เนื่องจากเขายืนยันว่าผู้ที่มาร่วมงานเลี้ยงปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด แต่ภายหลังจากการสอบสวนกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ดี จอห์นสันระบุว่าเขาไม่ได้มีเจตนาโกหก โดยกล่าวแก้คำพูดของตนเองว่า การเว้นระยะห่างทางสังคมในงานเลี้ยงที่ถนนดาวนิงอาจ ‘ไม่สมบูรณ์แบบ’ แต่ผู้ร่วมงานทั้งหมดก็ปฏิบัติตามคำแนะนำในการควบคุมโรคอยู่ตลอดเวลา
หลังจากที่เขาได้รับจดหมายจากคณะกรรมการสิทธิประโยชน์ จอห์นสันกล่าวว่าเขารู้สึกงุนงงและตกใจกับการสอบสวนที่เกิดขึ้น และชัดเจนว่าทางคณะกรรมการฯ หวังที่จะใช้กระบวนการดังกล่าวบีบให้เขาออกจากรัฐสภา พร้อมโจมตีว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่สอบสวนเขาทำตัวเหมือน ‘ศาลเถื่อน’ และตั้งใจที่จะเตะตัดขาเขาบนถนนการเมือง
“ผมถูกบีบให้ออกโดยกลุ่มคนเล็กๆ ที่ไม่มีหลักฐานใดๆ มาสนับสนุน” จอห์นสันกล่าว
อย่างไรก็ตาม จอห์นสันได้แย้มเป็นนัยว่า เขาจะกลับมาสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง โดยประกาศว่าการสละตำแหน่งในรัฐสภาจะเกิดขึ้นใน ‘ตอนนี้’ เท่านั้น
“ผมไม่ใช่คนเดียวที่คิดว่านี่คือการล่าแม่มดเพื่อแก้แค้น Brexit และเพื่อคว่ำประชามติในปี 2016” จอห์นสันกล่าว “การถอดถอนผมคือขั้นตอนแรก และผมเชื่อว่ามีความพยายามร่วมกันที่จะทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”
ทั้งนี้ คณะกรรมการสิทธิประโยชน์ของรัฐสภามีอำนาจที่จะแนะนำให้จอห์นสันถูกสั่งพักงานจากรัฐสภานานกว่า 10 วัน หากพบว่าจอห์นสันทำให้รัฐสภาเข้าใจผิดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยประมาทเลินเล่อหรือจงใจ โดยทางคณะกรรมการกล่าวว่าจะมีการประชุมเพิ่มเติมอีกครั้งในวันจันทร์ (12 มิถุนายน) เพื่อสรุปผลการสอบสวนและเผยแพร่รายงานให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
แฟ้มภาพ: Jonathan Brady / PA Images via Getty Images
อ้างอิง: