×

ศบ.ทก. ขออภัยเยียวยาประชาชนชายแดนล่าช้า เผยเริ่มจ่ายพรุ่งนี้ที่อุบลฯจังหวัดแรก ชี้กัมพูชายังละเมิดหยุดยิงต่อเนื่อง

โดย THE STANDARD TEAM
25.08.2025
  • LOADING...
border-situation-update-thailand

วันนี้ (25 สิงหาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศ, พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง และนาวาอากาศเอก กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ

 

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงว่า ในช่วงที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังในฐานที่ตั้ง ไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวของกองกำลังที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม มีการตรวจพบการวางลักลอบใช้ทุ่นระเบิด BHQ ของกัมพูชาในเขตอธิปไตยไทย แม้ฝ่ายไทยจะผลักดันออกไปได้ แต่ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง GBC อย่างต่อเนื่อง โดยที่ ไทยยังคงดำรงการเฝ้าตรวจและป้องกันพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 

 

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไทยและกัมพูชาจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) ที่ด่านบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี โดยมี พล.ร.ท. อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี–ตราด และ แอ๊ก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบก กัมพูชา เป็นประธานร่วม 

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบปฏิบัติตามข้อตกลง 13 ข้อจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมทั้งหารือเรื่องความร่วมมือกู้ทุ่นระเบิดและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนที่จะถูกหารือในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจในการเก็บทุ่นระเบิดที่คงค้างอยู่ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม

 

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน ศบ.ทก. ได้ขอบคุณประชาชนชาวไทยทุกคนที่ได้ส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ทุกนาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดำรงรักษาที่มั่นอธิปไตยของชาติ ตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568

 

หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนถึงอธิปไตยของไทย คือการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา โดยกองกำลังสุรนารีได้จัดสร้างเสาธงสเตนเลสถาวร บนยอดภูมะเขือ ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ การก่อสร้างดังกล่าวดำเนินการโดยชุดทหารช่างจากกองพันทหารช่างที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 และกองพลทหารราบที่ 11 ใช้เวลาติดต่อกันถึง 3 วัน 3 คืน ท่ามกลางสายฝน

 

ระหว่างการปฏิบัติการ ได้เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความเชื่อและศรัทธา ก่อนจะมีพิธีอัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาอย่างสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 โดยก่อนนั้น พล.อ. พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ 

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อตรวจติดตามและปรับปรุงเส้นทางยุทธวิธี สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองกำลัง พร้อมทั้งจัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชน รวมถึงรื้อถอนร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโจมตีด้วย BM-21 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและเป็นปกติในเร็ววัน

 

ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาและดูแลสุขภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้น  สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รายงานความคืบหน้าในที่ประชุมศบ.ทก.ว่า จะเริ่มดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยจังหวัดอุบลราชธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับเงิน จากนั้นเป็นจังหวัดบุรีรัมย์,สุรินทร์ และศรีสะเกษ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนของเอกสารหลักฐานจากประชาชน หากยื่นได้ครบ เงินเยียวยาจะถึงมือได้เร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงด้วยว่า ปัญหาความล่าช้าในการสั่งจ่ายงบประมาณยังคงมีอยู่ แต่ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขกระบวนการให้มีความรวดเร็วขึ้น พร้อมขออภัยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และยืนยันว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทั่วถึงและทันการณ์

 

ส่วนความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ช่วงที่ผ่านมาได้ตรวจพบความพยายามโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และการแฮ็กข้อมูลหลายกรณี อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้เฝ้าระวังและตรวจสอบภัยคุกคามตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวม วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ รวมถึงกำหนดท่าทีที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการระหว่างประเทศบนพื้นฐานข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจน

 

ขณะที่ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษก ศบ.ทก.ด้านการต่างประเทศกล่าวว่า มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ระหว่าง วันที่ 26-28 สิงหาคม ซึ่งครั้งนี้เป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการกระทำที่กัมพูชา วางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในเขตอธิปไตยของไทย 

 

จนเกิดเหตุการณ์ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากระเบิดแล้วหลายครั้ง ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและเป็นการละเมิด อนุสัญญาออตตาวาอย่างร้ายแรง โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเข้าพบกับหน่วยงานสำคัญ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทุ่นระเบิด 

 

รวมถึงคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา เรายืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์และให้เห็นว่าไทยยึดมั่นในความเปิดเผยอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโน้มน้าวให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างจริงจังและร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดตามแนวชายแดน ทั้งนี้ไทยยังคงยืนหยัดดำเนินการเชิงรุกโดยพร้อมให้ความร่วมมือกับกลไกสากลทุกขั้นตอนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและจริงใจ ว่าไทยไม่มีสิ่งใดต้องปกปิด

 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังมีกำหนดเข้าพบสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน เพื่อย้ำว่าการดำเนินการทั้งหมดของไทยตั้งอยู่บนพื้นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) ซึ่งขอใช้โอกาสนี้แสดงถึงการกระทำของกัมพูชาที่ขัด ต่อหลัก จริยธรรมไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมาย พลเรือน โดยการนำเด็กมาใช้ในคลิปวีดีโอ รวมถึงการเปิดการใช้พื้นที่ชุมชนในฐานที่มั่นทางทหาร หรือนำคนชรา ให้ออกมาเป็นด่านหน้าซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและขัดต่อกติกาสากลอย่างสิ้นเชิง

 

นิกรเดช​ ย้ำว่า​ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับความคุ้มครองสูงสุด ประเทศไทยจะยังคงร่วมมือกับประชาคมโลกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาออตตาวาและหลักการสากลเฉพาะโดยกฎหมาย มนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง

 

ขณะที่ น.อ.กฤษณัส กาญจนกุล ผู้ช่วยเลขานุการ คณะทำงานบูรณาการระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับกองทัพอากาศ ชี้แจง แนวปฏิบัติเมื่อตรวจพบโดรนในพื้นที่ต่างๆ กองทัพอากาศได้มีการกำหนดห้ามบินโดรนในพื้นที่สำคัญที่ตั้งทางทหาร และหน่วยงานราชการ ตลอดจนพื้นที่ตามแนวชายแดน  โดยทุกพื้นที่ที่บินโดรน จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงาน การบินพลเรือน โดยต้องมีการลงทะเบียน และบินได้เฉพาะกลางวันเท่านั้น

 

ขณะเดียวกันหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งหมดได้บูรณาการการต่อต้านโดรน และสกัดกั้น รวมถึงการทำลาย และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยร่วมมือกับทหาร  ตำรวจและฝ่ายปกครอง ทั้งนี้หากพบการใช้งานโดรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายสามารถแจ้งวันเวลาสถานที่พบเห็น และภาพถ่ายหรือวิดีโอคลิป ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising