นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ทางภาคเอกชน เช่น 40 บริษัทเอกชน กกร. โรงพยาบาลต่างๆ ยังมีความร่วมมือระหว่างกัน โดยตั้งคณะทำงานขึ้นเป็นพิเศษเพื่อจัดหา อำนวยความสะดวก และการกระจายวัคซีนอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของ THG มีการติดต่อกับผู้ผลิตวัคซีนทั้ง 3 บริษัท เช่น Moderna, Pfizer ฯลฯ โดยเริ่มนำวัคซีน Moderna ที่ทางโรงพยาบาลจองซื้อไว้เข้ามาจดทะเบียนกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วซึ่งล่าสุดเห็นทางนายกรัฐมนตรีออกมาสนับสนุนภาคเอกชนในการจัดหาแล้ว คาดว่าน่าจะจดทะเบียนสะดวกขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะวัคซีน Moderna ถือเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากหลายประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้คาดว่าช่วงที่ไทยต้องเร่งการฉีดให้ได้มากที่สุดคือช่วงพฤษภาคม-สิงหาคม 2564 โดยไม่จำเป็นต้องรอวัคซีนเพียงเจ้าเดียว โดยเฉพาะหลังจากเดือนสิงหาคม 2564 คาดว่าจะมีจำนวนวัคซีนเหลืออยู่ในตลาดค่อนข้างมากกว่า 2,000 ล้านโดส (10 บริษัท) ส่วนหนึ่งเพราะประเทศขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป เร่งฉีดไปมากแล้ว
ดังนั้นจากสถานการณ์ปัจจุบันและทั่วโลกมองว่าการจัดหาวัคซีนไทยควรเร่งรัดให้เข้ามาได้เร็วกว่าช่วงธันวาคม 2564 ที่ภาครัฐตั้งเป้าหมายไว้
ขณะเดียวกันมองว่ากำลังการฉีดวัคซีนของไทย เมื่อรวมกำลังการฉีดวัคซีนทั้งภาครัฐและเอกชน คาดว่าจะสามารถฉีดได้สูงสุดถึงวันละ 3-5 แสนโดส ซึ่งจะช่วยให้การกระจายวัคซีนเกิดได้เร็วขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงในการกลายพันธุ์ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้เร็วขึ้นด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า