นายเซจิ ลิมูระ และนางฟูยูมิ ลิมูระ คู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนใจว่าต้นบอนไซอันงดงามระดับรางวัล 7 ต้นของพวกเขาหายไปจากสวนที่เมืองไซตามะ เมื่อเดือนที่ผ่านมา
นายลิมูระเปิดเผยความรู้สึกผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ไม่มีคำใดที่จะเอ่ยแทนความรู้สึกของผมได้ เพราะต้นไม้เหล่านี้มีค่ากับเรามากเหลือเกิน”
ทั้งนี้สำนักข่าว CNN รายงานว่าต้นบอนไซทั้งหมดที่ถูกขโมยไปมีมูลค่าสูงถึง 13 ล้านเยน (118,000 เหรียญสหรัฐ)
หนึ่งในบอนไซที่ถูกขโมยไปนั้นคือบอนไซพันธุ์ชิมปากุ จูนิเปอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีในหมู่ผู้สะสมและผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นบอนไซพันธ์ุหายาก โดยบอนไซต้นดังกล่าวมีมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านเยน (91,000 เหรียญสหรัฐ)
“ชิมปากุของเรามีอายุมากว่า 400 ปี มันต้องได้รับการดูแล และคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หากขาดน้ำแม้เพียงสัปดาห์เดียว” นางลิมูระเขียนข้อความดังกล่าวลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา
“ต้นบอนไซสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นอมตะ แม้ชีวิตของเราดับสิ้นลงไปแล้ว ใครก็ตามที่ขโมยมันไปกรุณาช่วยรดน้ำให้มันด้วย”
นางลิมูระยืนยันกับสำนักข่าว BBC ว่าในขณะนี้ครอบครัวของเธอยังไม่ได้บอนไซทั้ง 7 ต้นคืน
“เรารู้สึกเสียใจและสิ้นหวัง แต่เราก็ขอปกป้องต้นบอนไซของเราต่อไป” นางลิมูระกล่าว “ในขณะเดียวกัน เราจะยังคงเดินหน้าเพาะพันธุ์ต้นไม้ที่ควรค่าแก่การชื่นชมของทุกคนต่อไป”
สำหรับความเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียลนั้น เหล่าผู้ที่ชื่นชอบทำสวนและนักสะสมบอนไซต่างออกมาแสดงความเสียใจและให้กำลังใจครอบครัวลิมูระกันอย่างล้นหลาม
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งกล่าวว่า “ให้อภัยไม่ได้จริงๆ โจรพวกนี้ไม่รู้เลยว่าการขโมยบอนไซไป 1 ต้นมันหมายถึงอะไร แล้วนี่ตั้ง 7 ต้น คงได้แต่ภาวนาว่าพวกมันจะดูแลบอนไซอย่างดี”
“ต้นบอนไซควรได้รับการเคารพและอยู่เหนือความละโมบของมนุษย์ ฉันรู้สึกใจสลายเมื่ออ่านโพสต์นี้” ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งกล่าว
ภาพ: Seiji Iimura/Facebook
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: