วันนี้ (22 มิถุนายน) ที่ศูนย์บรรเทาชั่วคราวศูนย์สร้างสุขทุกวัยบ่อนไก่ (ศูนย์เยาวชนบ่อนไก่) เขตปทุมวัน จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หัวจ่ายน้ำเพื่อดับเพลิงหรือหัวประปาสีแดงโดยรอบชุมชนไม่เอื้อต่อการใช้งานเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ และบางหัวจ่ายไม่สามารถใช้งานได้จริง ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม วีระชัย รื่นผกา ประธานชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ในประเด็นดังกล่าว
วีระชัยกล่าวว่า เมื่อก่อนในชุมชนมีเครื่องสูบน้ำแบบดับเพลิง 1 เครื่อง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเครื่องดังกล่าวไม่เคยถูกนำมาใช้งาน บำรุงรักษา ซ่อมแซม ทำให้ปัจจุบันไม่สามารถใช้งานได้ รวมไปถึงถังดับเพลิงขนาดเล็กก็ไม่มีเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นปัญหาในชุมชนว่าเกิดเพลิงไหม้แล้วไม่สามารถดับเพลิงได้เบื้องต้น สิ่งเดียวที่ทำได้คือต้องรอให้รถน้ำ รถดับเพลิงเข้ามา ซึ่งกว่าจะเข้ามาในพื้นที่ก็พบข้อจำกัดเรื่องถนนที่คับแคบ
วีระชัยกล่าวต่อไปว่า สำหรับหัวจ่ายประปาหรือหัวแดงรอบชุมชนมีอยู่ 4 จุด เมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน) ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ใช้หัวจ่ายครบถ้วนทุกจุด ซึ่งหัวประปานี้จะอยู่ตามแนวไฟไหม้ 3 จุด อยู่ด้านหน้าบริเวณศูนย์เด็กเล็ก 1 จุด ยืนยันว่าทุกตัวสามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้ถ้าถามว่าเพียงพอไหม วีระชัยกล่าวว่าไม่เพียงพอ เพราะในชุมชนแบ่งเป็นหลายส่วน
สำหรับแผนการป้องกันอัคคีภัยในชุมชน ตนในฐานะประธาน อยากเห็นการวางท่อส่งน้ำ เพื่อที่เวลาเกิดเหตุจะสามารถเชื่อมต่อสายและสูบน้ำได้ทันที ต่อมาคือหัวประปาแดงที่จะต้องมีเครื่องสูบน้ำวางประสานไปด้วย
ส่วนเรื่องการขาดแคลนอุปกรณ์ วีระชัยยอมรับว่า เคยพูดคุยและประสานขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปนานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ไม่เคยได้รับงบประมาณในส่วนนี้เลย ถ้ามีการประชุมเกิดขึ้นอีกครั้งครั้ง ตนจะนำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุม เพื่อเตรียมตัวไว้ในเหตุการณ์อนาคต
ขณะที่ ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนและกล่าวว่า จากการสำรวจหัวจ่ายน้ำรอบชุมชนทั้งที่ใช้ได้และใช้ไม่ได้ ส่วนนี้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่พบหัวจ่ายบางหัวไม่ได้ต่อกับท่อที่มีน้ำ บางท่อเกิดการเปลี่ยนแปลงภายหลังติดตั้งและไม่ได้ตรวจสอบสม่ำเสมอ
สำหรับแผนในอนาคต พื้นที่ที่ไม่สามารถติดตั้งหัวประปาได้โดยตรงในตรอกซอกซอยย่อย อาจจะต้องเพิ่มท่อเชื่อมโยงเพื่อป้องกันเหตุ แต่แผนทั้งหมดนี้จะต้องนำกลับไปหารืออย่างรอบคอบอีกครั้งหนึ่ง
