ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้เคลื่อนไหวในช่วง -0.5 ถึง +0.5% ตามคาดการณ์ของตลาด ส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงจาก 147.50 เยนต่อดอลลาร์ ไปสู่ระดับ 148.20 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 เดือน
แม้ว่าการตัดสินใจคงดอกเบี้ยและมาตรการ Yield Curve Control ของ BOJ จะออกมาตามคาดการณ์ของตลาด แต่ คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ยังไม่มีการส่งสัญญาณออกมาว่า พร้อมจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินให้เข้มงวดมากขึ้นตามที่หลายฝ่ายคาดไว้ โดยแถลงการณ์ของ BOJ ยังคงมีเนื้อหาเหมือนกับการประชุมในครั้งก่อนที่ระบุว่า BOJ พร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมในกรณีจำเป็น
ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายเชื่อว่า BOJ อาจเริ่มส่งสัญญาณปรับทิศทางนโยบายการเงินในการประชุมครั้งนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า พร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง และคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้กับค่าเงินเยนจากส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น
ขณะเดียวกันเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมก็ออกมาอยู่ที่ 3.1% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่ากรอบเป้าหมายของ BOJ ที่ 2% ติดต่อกันเป็นเวลา 17 เดือนแล้ว แต่ดูเหมือนว่า BOJ ยังเลือกที่จะเปิดกว้างในการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป
ชารุ ชานานา นักกลยุทธ์ตลาดเงินของ Saxo Markets ในสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า หากในช่วงที่เหลือของปีนี้ BOJ ยังไม่ออกมาส่งสัญญาณปรับทิศทางนโยบายการเงิน จะมีโอกาสสูงที่เงินเยนอาจอ่อนค่าไปทดสอบระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์
อ้างอิง:
