×

คุยกับ ‘BOI’ เปิด 3 มาตรการ ‘Fast Pass’ เร่งปลดล็อก 70 โครงการค้างท่อ ใน 120 วัน ดึงทุนนอก 5 อุตสาหกรรมใหม่

14.10.2025
  • LOADING...
boi-fast-pass-300-billion-investment-plan

ในช่วงเวลา 4 เดือน ภายใต้การบริหารงานรัฐบาลอนุทิน ยังมี 70 กว่าโครงการ มูลค่า 3 แสนล้าน ที่รอการลงทุน ‘BOI’ จึงวาง 3 นโยบายเร่งด่วน ซึ่งมุ่งเจาะไปที่การดึงดูดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก โดยเฉพาะ Data center, เซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้เกิดการลงทุนจริง พร้อมงัดกลยุทธ์ ‘Fast Pass’ ปลดล็อกเงื่อนไขเปิดรับนักลงทุนให้เร็วขึ้น

 

นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า เบื้องต้น คาดว่าจะมีอยู่ประมาณ 70 โครงการที่ขอรับการส่งเสริมแต่ยังค้างอยู่ โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้บีโอไอจะเร่งดำเนินการหารือร่วมกับนักลงทุนทั้ง 70 โครงการดังกล่าว เพื่อให้ได้รับทราบถึงปัญหา หรือข้อติดขัดในการดำเนินโครงการ เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด

 

โดยปัญหาหลักคือเรื่องของใบอนุญาตที่มีค่อนข้างมาก รวมถึงกระบวนการต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค เพื่อทำให้เกิดการลงทุนอย่างแท้จริง เนื่องจากภาคเอกชนเองก็มีความต้องการที่จะเร่งการลงทุน แต่ยังไม่สามารถเริ่มโครงการได้ เพราะติดปัญหาดังกล่าว

 

นอกจากนี้ บีโอไอจะเร่งมาตรการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เนื่องจากปัจจุบันมีอุตสาหกรรมใหม่เข้ามาเป็นจำนวนมาก 5 อุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ พลังงานสะอาด, เซมิคอนดักเตอร์, ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) ดิจิทัลขั้นสูง AI , อุตสาหกรรม BCG (Bio-Circular-Green Industries Hub), รวมถึง การทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ

 

“สาขาเหล่านี้บุคลากรไทยอาจจะยังไม่มีทักษะมาก่อน ดังนั้น ต้องเร่งสร้างในเวลาอันรวดเร็ว เพราะมีการลงทุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเอกนิติ นิติทันฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับเรื่องพัฒนาคนเป็นพิเศษ”

 

ปั้นแรงงานทักษะสูง 1 แสนคน ป้อน 5 อุตสาหกรรมใหม่

 

นฤตม์ กล่าวอีกว่า บีโอไอ ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และภาคเอกชน เพื่อนำความต้องการแรงงานจากภาคเอกชน (Demand) มาผสานเข้ากับหลักสูตร (Supply) ที่ อว. มี เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยจะมีการอบรมสร้างทักษะในเวลาอันรวดเร็ว มีการฝึกงานจริงในโรงงาน ซึ่งมีการตั้งเป้าให้เกิดการจ้างงาน 1 แสนราย และยกระดับ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

 

“เบื้องต้นจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ Bootcamp โดยจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น หรืออาจจะบวกกับการฝึกปฏิบัติงานจริงในโรงงาน, Online Training โดยจะทำ 2-3 อย่างดังกล่าวนี้ประกอบกันเพื่อสร้างบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะเชื่อมระหว่างฝั่ง Demand และ Supply และจะมีการสนับสนุนค่าใช้จ่าย (Subsidize) การอบรมผ่านเครื่องมือของบีโอไอ”

 

3 เรื่องเร่งทำ กระตุ้นลงทุน-สร้างคน-ยกระดับผู้ประกอบการ 

 

อีกทั้ง บีโอไอจะมีมาตรการยกระดับผู้ประกอบการไทย เพื่อให้สามารถปรับตัวและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในโลกยุคใหม่ได้ โดยเน้นเรื่องการปรับตัวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย, การใช้ระบบอัตโนมัติ (Automation) และเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามา โดยจะใช้เครื่องมือของบีโอไอในการสนับสนุนเช่นเดียวกัน

 

“ใน 4 เดือนหลังจากนี้ จึงมี 3 เรื่องสำคัญ คือ เร่งการลงทุน, สร้างคน และยกระดับผู้ประกอบการไทย แต่ไม่ใช่ว่าทำ 4 เดือนแล้วจบ เรื่องดังกล่าวเหล่านี้ต้องทำต่อเนื่อง แต่จะเริ่มต้นอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะแรกภายใน 4 เดือน”

 

อัดเงินกองทุนพัฒนาแรงงานทักษะสูงและผู้ประกอบการ 10,000 ล้านบาท 

 

นฤตม์ กล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ในวันศุกร์ที่ 17 ต.ค. 68 ที่จะถึงนี้ จะมีการนำทั้ง 3 มาตรการเข้าสู่ที่ประชุม เพื่อหารือ และพิจารณาในรายละเอียดหลักเกณฑ์สำหรับการดำเนินการต่อไป โดยเบื้องต้นรัฐบาลจะมีเงินกองทุนเพื่อพัฒนาทักษะแรงงานและผู้ประกอบการ 10,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการลงทุนอุตสาหกรรมใหม่

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือเรื่องใบอนุญาต ซึ่งตรงกับที่เอกนิติระบุไว้ในที่ประชุมสภาฯ โดยจะทำระบบที่เรียกว่า ‘Fast Pass’ ซึ่งก็คือจะคัดโครงการที่มีความสำคัญ ซึ่งจะดำเนินการเสมือนเป็น ‘บัตรอภิสิทธิ์’ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเรียนว่า ไม่ใช่ทำได้ทันที โดยช่วงแรกจะเน้นการแก้ปัญหา ด้วยการประสานงานช่วยไปก่อน

 

งัดกลยุทธ์ “Fast Pass”

 

ส่วน Fast Pass จะเป็นระบบที่ต้องอาศัยการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทุกหน่วยงานยินยอมที่จะร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นให้ Fast Pass ไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเมื่อนักลงทุนไปติดต่อหน่วยงานอื่นแล้วไม่ได้รับความร่วมมือก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นต้องระบุ (Identify) ว่าขั้นตอนสำคัญของภาคธุรกิจมีอะไรบ้าง และหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เห็นภาพเดียวกัน

 

และต้องมีสิ่งที่เรียกว่า SLA (Service Level Agreement) คือมาตกลงกันว่าตามขั้นตอนปกติสมมติใช้เวลา 100 วัน ถ้าเป็น Fast Track แล้วจะลดเหลือ 50 วันได้หรือไม่ ก็ต้องมาตกลงกันเป็นหน่วยงานไปถึงจะสำเร็จ

 

เมื่อตกลงกันได้แล้ว หลังจากนั้นเมื่อให้ Fast Pass กับนักลงทุนรายใดไปก็จะได้รับการบริการแบบ Fast Track นี้ โดยเรื่องดังกล่าวต้องขอเวลาอีกหน่อยในการหารือ ทำความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ โดยจะเลือกให้กับโครงการที่สำคัญ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีหลักเกณฑ์ออกมา เพื่อกำหนดให้ชัดเจน

 

ด้านมาตรการเรื่องบุคลากรกับเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยต้องรอประชุมคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (บอร์ดกองทุนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขัน) ก่อน ซึ่งปัจจุบันยังไม่กำหนดวันประชุม

 

“หากถามว่าจะเห็นทั้ง 3 มาตรการดังกล่าวเมื่อไหร่นั้น ต้องเรียนว่ารัฐบาลเองก็เร่งรัดอยู่ในทุกเรื่อง เพียงแต่ว่า ตอนนี้บีโอไอมี 4 บอร์ดสำคัญอยู่ในมือ คือ บอร์ดบีโอไอ, บอร์ดเพิ่มขีดความสามารถฯ, คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (บอร์ด EV), และคณะกรรมการนโยบายอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงแห่งชาติ หรือบอร์ดเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ โดยการประชุมทั้ง 4 บอร์ดดังกล่าวจะทยอยมีการประชุม โดยคาดว่าภายในเดือน ต.ค. หรือไม่เกินต้นเดือน พ.ย.” นฤตม์ กล่าว

 

ภาพ: Oselote / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising