ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) เซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5% นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 13 แล้ว เพื่อกำราบเงินเฟ้อ
วันนี้ (22 มิถุนายน) คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOE มีมติ 7 ต่อ 2 เห็นชอบการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% สู่ระดับ 5% โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวนับว่าท้าทายความคาดหวังของตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้ประเมินว่ามีโอกาสประมาณ 60% ที่ BOE จะขึ้นดอกเบี้ยในอัตรา 0.25%
โดยเงินปอนด์สเตอร์ลิงอ่อนค่าทันทีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังการประกาศมติอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 10 ปี ร่วงลดลงมากกว่า 5 Basis Points
ทั้งนี้ ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 มิถุนายน) แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 8.7% ในเดือนพฤษภาคม ไม่เปลี่ยนแปลงหรือไม่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า
อีกสิ่งที่น่ากังวลที่สุดสำหรับ BOE คืออัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน อาหาร แอลกอฮอล์ และยาสูบ ที่ผันผวน ยังอยู่ที่ 7.1% ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจาก 6.8% ในเดือนเมษายน และเป็นอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 1992
คณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOE ยังกล่าวหลังการประชุมว่า “ยังมีสัญญาณที่สำคัญในข้อมูลล่าสุดที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่นานขึ้น จากฉากหลังของตลาดแรงงานที่ตึงตัว และอุปสงค์ที่ยังคงมีความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่อง”
พร้อมทั้งระบุว่า “คณะกรรมการฯ จะยังคงติดตามสัญญาณอย่างใกล้ชิดถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงสภาวะตลาดแรงงานที่ตึงตัว การเติบโตของค่าจ้าง และอัตราเงินเฟ้อด้านบริการ หากมีหลักฐานบ่งชี้ถึงแรงกดดันที่ยืดเยื้อมากขึ้น เราก็คงต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น”
ขณะที่ Andrew Bailey ผู้ว่า BOE ก็กล่าวว่า การกดเงินเฟ้อลงเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดของเรา และ BOE จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาสู่เป้าหมายที่ 2% ให้ได้
อ้างอิง:
