คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของธนาคารอังกฤษ (BOE) มีมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 2 เปิดทางประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 พฤษภาคม) ทำให้อัตราดอกเบี้ยของอังกฤษในปัจจุบันปรับขึ้นจาก 4.25% มาแตะระดับ 4.50% ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008
รายงานระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้นับเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 12 ติดต่อกันของธนาคารกลางอังกฤษ
แถลงการณ์ของธนาคารอังกฤษยังได้ส่งสัญญาณที่จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อยังคงน่ากังวล โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดปรับตัวช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะราคาอาหารที่ปรับตัวแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) อังกฤษ ในเดือนมีนาคม ขยับขึ้นแตะระดับ 10.1%
ขณะเดียวกันธนาคารกลางอังกฤษยังได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจ โดยคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะมีการขยายตัว 0.25% ในปี 2023 จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัว 0.5% ส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจอังกฤษไม่น่าจะเผชิญกับภาวะถดถอยในปีนี้
ขณะที่ตัวเลข GDP ของอังกฤษ คาดว่าจะทรงตัวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเติบโต 0.9% ภายในกลางปี 2024 และ 0.7% ภายในกลางปี 2025
ทั้งนี้ มุมมองเศรษฐกิจที่เป็นบวกเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจอังกฤษโดยรวมได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นอย่างน่าประหลาดใจ ในการป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่คาดการณ์ไว้อย่างกว้างขวาง บวกกับค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลง และการสนับสนุนด้านการคลังที่ประกาศในงบประมาณฤดูใบไม้ผลิของรัฐบาล ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มเป็นไปในทางบวก
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษประเมินว่า เส้นทางของอุปสงค์มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้ในรายงานเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่ามาตรฐานในอดีตก็ตาม แต่โดยรวมแล้ว GDP ของอังกฤษ น่าจะเติบโตในระดับปานกลางนับต่อจากนี้ไป
ความเคลื่อนไหวของ BOE บวกกับตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงต้องการเวลาและข้อมูลเพิ่มเติมในการประมวลสถานการณ์ของตลาด ส่งผลให้การซื้อ-ขายในตลาดยุโรปปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
โดยดัชนี Stoxx 600 ของยุโรป ปิดตลาดแบบทรงตัว ก่อนปิดตัวในแดนลบเล็กน้อย ซึ่งหุ้นในกลุ่มเหมืองมีการขาดทุนมากขึ้นที่ 2.9% ขณะที่สินค้าสำหรับในครัวเรือนปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 1%
ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยผลสำรวจการคาดการณ์ของผู้บริโภคฉบับล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 พฤษภาคม) ระบุว่า ผู้บริโภคในยูโรโซนได้ปรับเพิ่มอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปีก่อนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ว่าเงินเฟ้อจะเติบโตชะลอตัวลง ทำให้ ECB ยังคงต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง
โดยแม้ ECB ตัดสินใจที่จะชะลอระดับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อในอนาคต ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB เข้าใกล้จุดสิ้นสุดของการต่อสู้กับเงินเฟ้อแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดีเดย์ มิ.ย. นี้ ผู้ใช้งาน Mobile Banking ต้องสแกนใบหน้ายืนยันตัวตน กรณีโอนเงินมากกว่า 50,000 บาทต่อรายการ
- ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Banking) โอกาสหรือความเสี่ยงสำหรับนักลงทุน
- Banking for Net Zero: ธนาคารกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจไร้คาร์บอน
อ้างอิง: