คณะกรรมการนโยบายการเงิน BOE ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และดึงกลับมาสู่เงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2%
วันนี้ (16 มิถุนายน) ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE จำนวน 6 คนมีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ขณะที่อีก 3 คนลงมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 1.50%
การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
โดยเงินเฟ้อในอังกฤษพุ่งแตะ 9% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หลังจากที่ราคาอาหารและพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกรณีรัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ BOE คาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งสูงกว่า 10% ในปีนี้
คณะกรรมการนโยบายการเงินกล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืนในระยะกลาง
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมเดือนพฤษภาคม BOE ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานไปแล้ว 0.25% สู่ระดับ 1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี แต่เตือนว่าเศรษฐกิจของอังกฤษมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจเดือนเมษายนที่ผ่านมาหดตัวโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน ในอัตรา 0.3% หลังจากที่หดตัว 0.1% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเห็นการลดลงติดต่อกันครั้งแรกนับจากเดือนเมษายนและมีนาคม 2020 และ OECD คาดการณ์ว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นประเทศในกลุ่ม G7 ที่เศรษฐกิจอ่อนแอที่สุดในปี 2023 จากแรงกดดันเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การขึ้นภาษี การค้าที่ลดลง และราคาอาหารและพลังงานที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคครัวเรือน
อ้างอิง: