หมายเหตุ: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์
พัคโบยอง นักแสดงหญิงวัย 33 ปีที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย เช่น A Werewolf Boy, Oh My Ghost, Strong Woman Do Bong Soon, Doom At Your Service ฯลฯ เป็นอีกคนที่ผู้ชมมักจะนึกถึงเสมอเมื่อพูดถึงบทแนวโรแมนติกคอเมดี้ที่ชวนให้ผ่อนคลายและยิ้มไปกับความสดใสของเธอ
แต่ในปีนี้นอกจากภาพยนตร์ระทึกขวัญ Concrete Utopia แล้ว ซีรีส์เรื่องล่าสุดอย่าง Daily Dose of Sunshine ทาง Netflix ก็ได้แสดงด้านที่แตกต่างของเธอด้วยบทที่ซับซ้อนทางอารมณ์อย่าง จองดาอึน พยาบาลที่เพิ่งย้ายมาทำงานใหม่ในแผนกจิตเวช
“ถ้ามีใครที่ยังเผชิญกับค่ำคืนอันมืดมิดและยาวนานอยู่ หวังว่าเมื่อได้ดูซีรีส์ของเราแล้ว คุณจะรับรู้ว่ารุ่งเช้ากำลังจะมาถึงและผ่านพ้นมันไปได้นะคะ” – พัคโบยอง
Daily Dose of Sunshine มีชื่อเรื่องภาษาเกาหลีที่แปลว่า ‘แม้แต่วอร์ดจิตเวช รุ่งเช้าก็จะมาถึง’ ซีรีส์ดัดแปลงจากเว็บตูนของ อีราฮา อดีตพยาบาลแผนกจิตเวชที่ลาออกมาวาดรูปตามความฝัน กำกับโดย อีแจกยู จาก All of Us Are Dead และมีนักเขียนบทซีรีส์ด้วยกัน 3 คนคือ โอโบฮยอน, คิมดาฮี และ อีนัมกยู จาก Behind Your Touch
ซีรีส์เล่าเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ โดยมุ่งเน้นไปที่การทำงานของบุคลากรภายในแผนกจิตเวช ชี้ชวนให้เห็นว่าความเจ็บป่วยทางจิตใจที่ผู้คนมักจะตีตรานั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสังคมที่มีแรงกระตุ้นเป็นความกดดันในการแข่งขันทุกๆ ด้านตั้งแต่วัยเรียนจนวัยทำงาน และอีกหลายปัจจัยสามารถก่อให้เกิดอาการป่วยเหมือนกับร่างกายส่วนอื่นๆ ที่ต้องได้รับการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย เพราะอาจนำไปสู่วิกฤตร้ายแรงเช่นการฆ่าตัวตายได้
ประเทศเกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงสุดในกลุ่มประเทศ OECD มาร่วม 20 ปี รัฐบาลเพิ่งเผยตัวเลขว่าในปี 2020-2022 ซึ่งโรคโควิดระบาดหนักไปทั่วโลกและมีชาวเกาหลีใต้เสียชีวิตไป 32,156 คน แต่ผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายมีจำนวนมากกว่าคือ 39,453 คน โดยที่อัตราการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นและคนช่วงวัย 20 ปีมีจำนวนสูงขึ้นในรอบหลายปีนี้
ในซีรีส์สะท้อนให้เห็นว่าหนึ่งในสาเหตุการป่วยของหลายๆ ตัวละครมาจากเรื่องงาน เช่น โรคนอนไม่หลับ แพนิก สมองเสื่อมเทียม ฯลฯ จนถึงโรคหลงผิดของคนไข้รายหนึ่งที่จองดาอึนดูแลอยู่ เมื่อได้รับข่าวว่าเขาฆ่าตัวตาย เธอที่แสดงด้านร่าเริงให้คนอื่นเห็นเสมอและพยายามทำงานตามปกติก็ค่อยๆ เผยสัญญาณของโรคซึมเศร้า
ตั้งแต่การลืมไปชั่วขณะว่าคนไข้เสียชีวิตแล้ว หรือพฤติกรรมไม่อยากอาหาร ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไร ไปจนถึงพยายามฆ่าตัวตาย แม้แต่ตอนที่เธอเข้ารับการรักษาในช่วงแรกก็มีอาการต่อต้าน เพราะไม่เชื่อว่าตัวเองป่วยจริงๆ หลังจากเป็นฝ่ายดูแลคนอื่นมาตลอด ซึ่งนั่นก็คือข้อความหลักของซีรีส์ที่ตั้งใจสื่อสารว่าใครๆ ก็มีปัญหาสุขภาพจิตได้เหมือนกันทั้งนั้น
จองดาอึนรับรู้ว่าโรคซึมเศร้าจะยังมาเยี่ยมเยียนเธออยู่บ้าง บางวันเหมือนมีฝนตกอึมครึมตลอดเวลา บางคืนมืดมนจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่การตระหนักรู้ถึงคุณค่าของตัวเองและกำลังใจที่ได้รับจากคนรอบข้าง ทำให้เธอรู้เช่นกันว่าเช้าวันใหม่ที่มีแสงแดดจะมาถึงอีกครั้ง และจะส่องอย่างทั่วถึงเพื่อให้ความอบอุ่นกับใครก็ตามที่เผชิญความยากลำบากในชีวิตอยู่
อย่างที่พัคโบยองเผยว่าเธอร้องไห้และรู้สึกได้รับการปลอบโยน หลังจากชมฉากของคนไข้และพยาบาล พัคซูยอน ที่พยายามทำงานและทำหน้าที่แม่ให้สมบูรณ์แบบทั้งคู่ แม้บทบาทการเป็นแม่คนจะแตกต่างจากชีวิตจริงของเธอ แต่เธอคิดว่าประโยค “อย่าฝืนพยายามมากเกินไปเลย” กำลังบอกกับทุกๆ คนว่าอย่าใช้ชีวิตหนักเกินไปจนสูญเสียตัวเอง
พัคโบยองยังเล่าว่าเธอเริ่มเขียนไดอารีตามจองดาอึนที่เขียนขณะรักษาโรคซึมเศร้า การหาเรื่องมาเขียนชมตัวเองอาจยากในตอนแรก แต่เมื่อดูไดอารีของดาอึนก็จะเห็นว่ามีคำชม เช่น ผูกเชือกรองเท้าได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งการจดจำและชื่นชมแม้แต่เรื่องง่ายๆ และดูเล็กน้อยนั้นก็คือสิ่งสำคัญต่อการเห็นคุณค่าในตัวเอง
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าก่อนจะมาร่วมแสดงใน Daily Dose of Sunshine ฉันเคยมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอาการป่วยทางจิตเวช แต่เมื่ออ่านบทครั้งแรกจบแล้ว ฉันคิดว่าทุกคนจะได้รับการปลอบโยนจากซีรีส์ รวมถึงผู้ป่วยจิตเวชด้วย ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ค่ะ”
รับชม Daily Dose of Sunshine ทั้ง 12 ตอนได้ทาง Netflix
ภาพ: Netflix
อ้างอิง: