ไม่ใช่แค่ยืนหนึ่งการเป็นเจ้านวัตกรรมรถยนต์หรูสมรรถนะสูงระดับโลกเท่านั้น เพราะ BMW ยังให้ความสำคัญกับงานดีไซน์และฟีลลิ่งในการขับขี่รถของพวกเขาด้วยเช่นกัน
ล่าสุดแบรนด์รถยนต์จากเยอรมนีเล่นใหญ่ ดึงตัวนักประพันธ์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ระดับตำนานของฮอลลีวูด ฮันส์ ซิมเมอร์ มาร่วมงานเฉพาะกิจกับ เรนโซ วิทาลี วิศวกรและดีไซเนอร์ด้านเสียงของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป พร้อมออกแบบเสียงสังเคราะห์การเร่งเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของรถยนต์ BMW Vision M NEXT ในโหมดบูสต์พลัส (Boost+) (ส่วนหนึ่งเป็นการแก้ปัญหาเสียงเครื่องยนต์ไฟฟ้าเงียบเกินไปและเป็นอันตรายต่อคนเดินถนน)
นักประพันธ์ดนตรีมือทองชาวเยอรมัน วัย 61 ปี ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงประสบการณ์การออกแบบเสียงเครื่องยนต์ในครั้งนี้ว่า “เสียงเป็นองค์ประกอบสำคัญในภูมิทัศน์ด้านอารมณ์ของตัวผมมาตั้งแต่ก่อนผมจะเป็นนักดนตรีและเป็นผู้ประพันธ์ดนตรีด้วยซ้ำ และเสียงของรถยนต์ก็มีลักษณะการสะท้อนก้องกังวานที่พิเศษบางอย่างในตัวของมัน ผมกับเพื่อนมักจะเล่นเกมปิดตาทายเสียงเครื่องยนต์ของรถที่วิ่งผ่านอยู่เสมอ และผมก็เป็นฝ่ายที่ชนะอยู่บ่อยๆ
“ผมเติบโตมาในครอบครัวที่ผูกพันกับแบรนด์ BMW สมัยเด็กๆ ช่วงที่ผมเตรียมจะเข้านอน ผมมักจะได้ยินเสียงรถ BMW ของพ่อและแม่แล่นกลับมาถึงบ้านอยู่เสมอ เสียงเครื่องยนต์ของมันไม่ได้แค่ทรงพลังและสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียงที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและสะดวกสบายอีกด้วย
“ผมตื่นเต้นมากๆ ที่ได้รับโอกาสออกแบบเสียงของเครื่องยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของ BMW เพื่อสร้างสรรค์อารมณ์ความรู้สึกของประสบการณ์การขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งโลกอนาคต”
สำหรับ ฮันส์ ซิมเมอร์ ถือเป็นนักประพันธ์ดนตรีระดับตำนานคนหนึ่งของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด โดยก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับรางวัลออสการ์ในปี 1995 สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และรางวัลลูกโลกทองคำจากภาพยนตร์แอนิเมชัน The Lion King มาแล้ว (ได้ลูกโลกทองคำอีกหนึ่งรางวัลจาก Gladiator ในปี 2001 ร่วมกับ ลิซ่า เจอร์ราด) แถมมีชื่อเข้าชิงมากถึง 17 ครั้ง
ทั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้เปิดตัวรถยนต์คอนเซปต์สปอร์ตไฟฟ้ารุ่น BMW Vision M NEXT เป็นครั้งแรกสู่สายตาสาธารณชนในงานเปิดวิสัยทัศน์ NEXTGen ที่มิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันอังคารที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเตรียมปูทางสู่การรุกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มตัว
ข้อมูลระบุว่า BMW Vision M NEXT จะเป็นรถยนต์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงตัวผู้ขับเป็นสำคัญ ด้วยเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนคนขับให้กลายเป็นนักขับมือฉมัง โดยถือเป็นยานพาหนะเน็กซ์เจนสำหรับอนาคตอย่างแท้จริง
ก่อนหน้านี้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป เคยประกาศเอาไว้ว่าในปี 2023 บริษัทจะต้องมีรถยนต์ไฟฟ้าเปิดตัวให้ได้มากถึง 25 รุ่น (ในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งหนึ่งต้องเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Full EV 100%) พร้อมตั้งเป้าหมายใหม่เพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ต่อปีภายในปี 2025
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
