วันนี้ (12 มิถุนายน) กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานผลสำเร็จการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะ หรือ Adaptive Traffic Signal System ใน 72 ทางแยกทั่วกรุงเทพฯ โดยสามารถลดความล่าช้าเฉลี่ยในการเดินทางลงได้ถึง 10-41% เมื่อเทียบกับระบบเดิม
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2568 ซึ่งที่ประชุมได้รายงานถึงความคืบหน้าและผลสำเร็จของการพัฒนาระบบดังกล่าว
ระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะนี้เป็นการเปลี่ยนจากการควบคุมด้วยระบบ Fix Time แบบเดิม มาเป็นระบบ Adaptive ที่มีความยืดหยุ่นและชาญฉลาดมากขึ้น โดยมีการอัปเกรดเซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพการจราจรด้วยกล้อง Image Processing และพัฒนาซอฟต์แวร์ประมวลผลให้สามารถปรับจังหวะสัญญาณไฟที่ทางแยกได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ ระบบสามารถตรวจนับปริมาณการจราจรในแต่ละทิศทางได้อย่างแม่นยำ ตัดสัญญาณไฟเมื่อไม่มีรถเข้าทางแยก และตรวจจับสภาพการจราจรด้วยการวัดค่าความล่าช้า (Delay) ของทางแยก เพื่อป้องกันการเกิดรถติดสะสมเกินทางแยก
โครงการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรแบบ Adaptive จำนวน 72 ทางแยก เริ่มดำเนินการในปี 2567 และแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2568 โดยในปี 2568 ได้มีการเปิดใช้งานระบบครบทั้ง 72 ทางแยกอย่างเต็มรูปแบบ
ทางแยกที่ได้รับการติดตั้งระบบใหม่นี้กระจายอยู่ในพื้นที่ชั้นในของ กทม. และบนถนนสายสำคัญที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่น เช่น ถนนพระราม 9, ถนนดินแดง, ถนนพญาไท, ถนนสุขุมวิท, ถนนเพลินจิต, ถนนพระรามที่ 1, ถนนพระรามที่ 4, ถนนสาทร, ถนนสีลม, ถนนสุรวงศ์, ถนนสี่พระยา และถนนพหลโยธิน
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ระบบสัญญาณไฟจราจรแบบ Adaptive นี้ สามารถลดความล่าช้าเฉลี่ยในการเดินทางบริเวณทางแยกได้อย่างชัดเจนถึง 10-41% เมื่อเทียบกับระบบสัญญาณไฟจราจรแบบเดิม (Fix Time) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพมหานคร