สุดสัปดาห์นี้กรุงฮานอยที่คึกคักจะครึกครื้นไปด้วยเสียงเพลงจากวงเคป๊อปที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง BLACKPINK การมาถึงของเกิร์ลกรุ๊ปในเวียดนามเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของอิทธิพลเกาหลีใต้ที่มีต่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อิทธิพลที่แผ่ซ่านไปทั่วภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบันเทิง ธุรกิจ แฟชั่น หรือแม้แต่ฟุตบอล
อิทธิพลนี้ไม่ใช่แค่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจด้วย เกาหลีใต้ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เป็นนักลงทุนชั้นนำในเวียดนามอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่สร้างหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่มั่นคงระหว่างทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การสร้างชุมชนชาวเกาหลีที่อพยพมาอยู่เวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างๆ เช่น เขตทางตอนใต้อันหรูหราของนครโฮจิมินห์
ขณะที่เวียดนามมองหาการยกระดับภาคการผลิต โดยเปลี่ยนจากการผลิตต้นทุนต่ำไปสู่การผลิตที่ซับซ้อนและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น เวียดนามมักมองเกาหลีใต้เป็นแบบอย่าง ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของตนจากสภาพที่บอบช้ำจากสงครามในทศวรรษที่ 1950 มาเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยส่วนใหญ่ผ่านการมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมการส่งออกและเทคโนโลยีขั้นสูง
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างเกาหลีใต้และเวียดนามมีตัวอย่างให้เห็นได้จากการปรากฏตัวของบริษัทขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ เช่น บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung และซัพพลายเออร์เครื่องแต่งกาย Hae Sung ในเวียดนาม ธุรกิจเหล่านี้ลงทุนอย่างมากในประเทศ ยกระดับเทคโนโลยีและทักษะในภาคการผลิตของเวียดนาม
ชเวบุนโด ประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมเกาหลีประจำเวียดนามใต้และเวียดนามกลาง กล่าวว่า ข้อตกลงด้านภาษีและการค้าที่เป็นประโยชน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนี้
เขาเน้นย้ำว่า กำลังแรงงานที่มีคุณภาพและทักษะสูงในเวียดนาม รวมถึงความเป็นไปได้ที่เวียดนามจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกแทนจีน หลังจากความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ผันผวน เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทเกาหลีเลือกลงทุนในเวียดนาม
ถึงกระนั้นไม่ใช่แค่ข้อพิจารณาทางเศรษฐกิจและนโยบายเท่านั้นที่ดึงทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น มีเสียงสะท้อนทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งเช่นกัน ซึ่งมีรากฐานมาจากค่านิยมของขงจื๊อที่มีร่วมกัน ซึ่งให้ความสำคัญกับการเคารพผู้มีอำนาจ การศึกษา และครอบครัว นอกจากนี้ชาวเวียดนามยังได้พัฒนาความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะเพลงป๊อปเกาหลี (K-Pop) และละครโทรทัศน์
อันที่จริงคลื่นวัฒนธรรมนี้ได้กลายเป็นธุรกิจร่วมทุนที่มีศักยภาพในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ที่กำลังจะมีขึ้นในกรุงฮานอยถูกมองว่า เป็นสัญญาณที่ประกาศว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามกลับมาเปิดอีกครั้ง แม้จะยังมีผลกระทบของการระบาดใหญ่อยู่ก็ตาม
คอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับกลุ่มแฟนคลับเคป๊อปที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเวียดนาม การวิจัยของมูลนิธิเกาหลีระบุว่า เวียดนามมีจำนวนแฟนเพลงเคป๊อปเพิ่มขึ้นสูงสุดทั่วโลกในปีที่แล้ว
กระนั้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเหล่านี้ยังนำมาซึ่งความท้าทายบางประการ ในขณะที่เวียดนามหวังที่จะเลียนแบบความสำเร็จทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ แต่ก็ระมัดระวังที่จะนำเข้าแนวทางปฏิบัติทางวัฒนธรรมบางอย่างที่มาพร้อมกัน เช่น ชั่วโมงการทำงานที่หนักซึ่งพบได้ทั่วไปทั้งในโลกธุรกิจและวงการบันเทิง นอกจากนี้ธุรกิจเวียดนามบางแห่งประสบปัญหาเมื่อพยายามเจาะเข้าไปในห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งมักชอบทำงานกับบริษัทเกาหลีด้วยกันเอง
อุปสรรคทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นก็มีอยู่เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ข้อเสนอของรัฐบาลฮานอยที่จะยกเลิกมาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับวัตถุดิบนำเข้าที่ใช้ในสินค้าปลายทางเพื่อการส่งออก ได้นำไปสู่ความกังวลในหมู่ธุรกิจของเกาหลีใต้เกี่ยวกับอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในการลงทุน
แม้จะมีความกังวลเหล่านี้ แต่หลายคนในเวียดนามมีความหวังว่าเวียดนามจะเดินตามรอยเท้าของเกาหลีใต้ และหลีกเลี่ยง ‘กับดักรายได้ปานกลาง’ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่การเติบโตของประเทศกำลังพัฒนาซบเซาหลังจากมีรายได้ถึงระดับหนึ่ง
อิทธิพลของเกาหลีใต้ขยายไปถึงกระแสผู้บริโภคในเวียดนาม โดยผลิตภัณฑ์ที่มีฉลาก Han Quoc (ภาษาเกาหลีในภาษาเวียดนาม) ถูกมองว่าเป็นแรงบันดาลใจและมีความหมายเหมือนกันกับคุณภาพ แนวโน้มนี้ได้รับการเน้นย้ำเพิ่มเติมโดยการขยายเครือข่ายของเกาหลีใต้ทั่วเวียดนาม เช่น ร้าน TOUS les JOURS, ร้าน GS25 และโรงภาพยนตร์ CJ Group อิทธิพลยังขยายไปถึงฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม ซึ่งมีชาวเกาหลีใต้เป็นโค้ช
ในขณะที่คอนเสิร์ตของ BLACKPINK ที่กำลังจะมีขึ้น ได้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงต่างๆ รวมถึงการแบนการแสดงที่อาจเกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์ในดินแดนทะเลจีนใต้และปัญหาลิขสิทธิ์เพลง อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และเวียดนามที่กำลังดำเนินอยู่ หากคอนเสิร์ตดำเนินต่อไปตามแผน นี่เป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของสายสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่ผูกมัดประเทศในเอเชียทั้งสองไว้ด้วยกัน
ภาพ: Emma McIntyre / Getty Images for Coachella
อ้างอิง: