เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมคิดว่าน่าจะมีหลายคนที่ได้เห็นภาพการฉลองประตูระหว่าง เจสซี ลินการ์ด กับ ปอล ป็อกบา ที่ทำท่า Wakanda Forever ที่มาจากภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องฮิตที่เขย่าโลกอยู่ในเวลานี้อย่าง Black Panther
แน่นอนว่าภาพดังกล่าวโด่งดังอย่างมากในสังคมออนไลน์ กลายเป็นไวรัลที่ใครๆ ต่างก็อดพูดถึงไม่ได้ครับไม่ว่าจะเป็นแฟน ‘ปีศาจแดง’ หรือไม่ก็ตาม
มองอย่างผิวเผินก็เป็นการฉลองประตูแบบคูลๆ ตามกระแส
แต่หากมองด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง เราจะมองเห็นได้ว่ามันเป็นการแสดงออกถึงความภูมิใจในชาติพันธุ์ของพวกเขา
พวกเขาในความหมายถึงเหล่า ‘คนดำ’ ที่เก่งกาจไม่แพ้ใครในโลก โดยเฉพาะในโลกกีฬา พวกเขาเป็นหนึ่งไม่มีสอง
เปเล่, มูฮัมหมัด อาลี, ไทเกอร์ วูดส์, ลูอิส แฮมิลตัน, ไมเคิล จอร์แดน, ยูเซน โบลต์ และ เซเรนา วิลเลียมส์ – ชื่อเหล่าเป็นเพียงตัวอย่างของคนดำที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเกมกีฬา
นี่คือสายเลือดที่น่าภูมิใจ เพียงแต่ด้วยชะตากรรมที่โหดร้ายทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดของสายเลือดมาโดยตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา
ที่ผ่านมานักกีฬาคนดำต้องต่อสู้ด้วยเลือดเนื้อ ชีวิต และจิตวิญญาณมาตลอดครับ กว่าที่พวกเขาจะก้าวผ่านกำแพงสูงชันในหัวใจของคนขาวได้ก็ต้องเสียน้ำตามาแล้วมากมาย เหมือนเช่นเรื่องราวของ ไซริลล์ รีจิส ตำนานนักเตะผิวดำหนึ่งในผู้บุกเบิกของวงการฟุตบอลอังกฤษ ที่เคยเล่าสู่กันฟัง และยังมีอีกหลายเรื่องราวของการต่อสู้ที่เจ็บปวดของพวกเขา
จนกระทั่งเรื่องราวของพระราชา ‘ทีชัลลา’ และประเทศวากันดา ซึ่งก็น่าแปลกดีที่แม้เราจะรู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องสมมติ แต่ภาพความยิ่งใหญ่ที่เราได้เห็นจากภาพยนตร์ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของพวกเขา จากที่เคยน้อยเนื้อต่ำใจก็กลับมาภูมิใจในตัวตนของตัวเองอีกครั้ง
และที่สำคัญไม่แพ้กันคือเหล่าผู้คนที่มีสีผิวแตกต่างและวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนกัน เริ่มให้การยอมรับในตัวตนของพวกเขามากยิ่งขึ้น ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นตามลำดับ และมีโอกาสที่โลกเราจะกลับมาเท่าเทียมกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ดีนอกเหนือจากด้านของนักกีฬาที่เป็นผู้ชี้นำทางความคิดในสังคมแล้ว ยังมีความพยายามอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันครับ
วัดกันเรื่องผลกระทบในวงกว้างอาจจะน้อย แต่ไม่ได้ด้อยกว่าในเรื่องของความพยายามและความสร้างสรรค์ และเวลานี้กำลังเป็นที่สะดุดตาของคนจำนวนมาก
กลุ่มดังกล่าวมีชื่อว่ากลุ่ม Black Arrow หรือแปลเป็นไทยคือกลุ่ม ‘ศรดำ’
ความจริง Black Arrow เป็น Lifestyle Brand ที่มีเจ้าของเป็นคนดำครับ แต่พวกเขามีความตั้งใจที่จะ ‘เชื่อมโยง’ ระหว่างเหล่าคนดำ หรือที่เขาเรียกกันว่า ‘Black Folk’ ด้วยกันโดยอาศัยเกมฟุตบอล และเชื่อมโยงกับโลกภายนอกผ่านวัฒนธรรมลูกหนังของพวกเขา
เปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ Black Arrow คือ ‘เวที’ ที่จะทำให้เหล่า Black Folk ได้แสดงออกให้โลกได้เห็น รับรู้ และเข้าใจมากขึ้น ว่าพวกเขานั้นสร้างแรงกระเพื่อมต่อโลกอย่างไรบ้าง
โดยที่หลายเรื่องเราไม่เคยรู้ หรืออาจจะรู้แต่แค่เพียงผิวเผินเท่านั้น เช่น เรื่องความนิยมของทีม ‘ปืนใหญ่’ อาร์เซนอล ในทวีปแอฟริกา ที่ไม่ต่างจากความนิยมของแฟนฟุตบอลเอเชียที่มีต่อทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล
เรื่องนี้มันมีเหตุผลอยู่ครับ และเหตุผลที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งคือการที่อดีตนักฟุตบอลอาร์เซนอล จอช อีสต์แฮม ได้จัดตั้งกลุ่มแฟนกันเนอร์สในแอฟริกาใต้ขึ้นในช่วงต้นยุค 90s และทำให้อาร์เซนอลเป็นทีมแรกๆ จากอังกฤษ ที่มีการถ่ายทอดสดมาในทวีปแอฟริกา
ก่อนที่ อาร์เซนอล จะได้ อาร์เซน เวนเกอร์ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม และกุนซือชาวฝรั่งเศส เป็นคนที่พร้อมเปิดโอกาสให้นักเตะคนดำได้ลงแสดงความสามารถอย่างเต็มที่
เวนเกอร์ เซ็นสัญญาซูเปอร์สตาร์สายเลือดแอฟริกันอย่าง เอ็นวานโก้ คานู (ไนจีเรีย) เข้ามาสู่ทีม ก่อนจะนำไปสู่นักเตะแอฟริกันอีกมากมายที่ตามมา
แต่คนที่ทำให้ชาว แอฟริกัน-อเมริกัน ‘เครซี่’ ทีมอาร์เซนอล คือ ‘ติตี้’ เทียร์รี อองรี
อองรี เป็นนักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์คนดำคนแรกในยุคลูกหนังโมเดิร์นที่ทำให้คนผิวดำตื่นเต้นและสนใจในเกมลูกหนังกันมากขึ้น ซึ่งหนึ่งใน ‘กูนเนอร์ส’ ที่ชื่นชอบในตัว อองรี คือ Jay-Z แรปเปอร์ที่เก่งที่สุดในโลก (ในความเห็นของชาว Black Arrow)
ทุกวันนี้แม้ว่าอาร์เซนอลจะไม่ได้เกรียงไกรเหมือนเมื่อ 15-20 ปีก่อน แต่ความนิยมของอาร์เซนอลในทวีปแอฟริกายังสูงอยู่ เหล่าเซเลบริตี้ยังคงสนับสนุนทีมเหมือนเดิม ขณะที่กลุ่มแฟนบอลกันเนอร์สนั้นก็มีมากถึง 22 กลุ่มทั่วทั้งแอฟริกา
ขณะที่ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกา มีทีมฟุตบอลในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ที่ถือเป็นตัวแทนของคนดำอย่าง แอตแลนต้า ยูไนเต็ด
ทีมฟุตบอลนี้สวมกอดกับวัฒนธรรมคนดำอย่างอบอุ่นครับ ในสนามแห่งนี้มีกลุ่มกองเชียร์คนดำที่มีกำลังใจแข็งแรงและเปี่ยมด้วยสีสัน ถ้าหากเราไปนั่งชมเกมที่สนามเราจะได้ยินเพลงเชียร์เจ๋งๆ ในสไตล์ฮิปฮอป และได้มีโอกาสเจอกับศิลปินฮิปฮอปฝีมือดีอย่าง Big Boi, 2 Chainz, Migos, Young Joc, Lil Jon, Waka Flocka, Monica
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแฟนบอล แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ที่ชื่อว่า Footie Mob ซึ่งตั้งชื่อตามวงแรปในตำนานอย่าง Goodie Mob
และเรื่องที่ชาวศรดำภูมิใจอย่างมากคือการที่มีส่วนช่วยให้ โจ คาเดงเก (Joe Kadenge) ตำนานลูกหนังชาวเคนยา ได้มีโอกาสไปเยือนสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ทีมในดวงใจของเขา
คาเดงเก เป็นสาวกปีศาจแดงคนแรกๆ ในประเทศเคนยา โดยเหตุผลที่ทำให้เขารักทีมนี้นั้นเกิดจากการต้องการสนับสนุนทีมหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่มิวนิก จนทำให้ “บัสบี้ เบบส์” จากไปถึง 8 คน
60 ปีผ่านมานับจากวันมหาวิปโยคของชาวแมนเชสเตอร์ คาเดงเก นักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาลของเคนยา ได้มีโอกาสเดินทางไป ‘โรงละครแห่งความฝัน’ ผ่านการยื่นมือช่วยของ Black Arrow
เหล่านี้คือเรื่องราวที่ Black Arrow นำเสนอให้โลกได้รับรู้และเรียนรู้วัฒนธรรมผ่านพวกเขาที่ ‘โคตรคูล’
ขณะที่อีกทางหนึ่ง พวกเขาก็รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น มีการจัดทัวร์ไปดูฟุตบอลด้วยกันตามเมืองต่างๆ และเป็นเหล่ากองเชียร์ที่น่ารักและเปี่ยมไปด้วยสีสัน
ลบภาพลักษณ์และความรู้สึกเก่าๆ ที่คนอื่นเคยมีต่อพวกเขาอย่างช้าๆ และทำให้ทุกคนรู้ว่าคนเหล่านี้ก็เป็นคนที่มีอารยะ วัฒนธรรม และมีรอยยิ้มที่ไม่แตกต่างไปจากทุกคน
หรือหากไม่จัดไปดูบอลที่สนาม บางครั้งพวกเขาก็จัดปาร์ตี้ดูฟุตบอลกันแบบสุดมัน
และถ้าเราเข้าไปติดตามพวกเขาในโซเชียลมีเดียบนเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ เราจะได้เห็นเรื่องราวของกองเชียร์คนดำคนอื่นๆ ทั้งเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียง หรือคนธรรมดาสามัญแต่มีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ แน่นอนว่ารวมถึงนักกีฬาคนดำที่น่าจับตามองด้วย ไม่ว่าเขาจะเป็นชนชาติใดก็ตาม
ด้วยจุดยืนที่แตกต่างและโดดเด่น ทำให้พวกเขาเริ่มเป็นที่สนใจครับ ล่าสุด online publisher ชื่อดังอย่าง COPA90 ก็จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อบอกต่อเรื่องราวของพวกเขา และน่าจะทำให้โลกได้เข้าใจพวกเขากันมากขึ้น
เช่นเดียวกับการส่งเสริมให้คนดำได้มีความภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น เหมือนกระแส Afrofuturism จาก Black Panther
มันห่างไกลเกินกว่าจะบอกว่าปัญหาการเหยียดสีผิวที่เป็นมะเร็งร้ายของโลกมานานจะตายจากไปในวันนี้
แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นประกายความหวังเล็กๆ ที่มีโอกาสจะทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมด้วยคำว่า ‘เข้าใจ’
ไม่ใช่แค่สำหรับพวกเขา แต่หมายถึงพวกเราทุกคนด้วยครับ
อ้างอิง:
- www.blackarrowfc.com/
- www.facebook.com/blackarrowfc/
- www.facebook.com/groups/283744502068866/about/
- www.instagram.com/blackarrow_fc/
- ในฤดูกาล 2003-2004 อาร์เซนอล สร้างตำนาน ‘The Invincibles’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งแกนของทีมในชุดนั้นคือนักเตะคนดำอย่าง โลร็องต์ เอตาเม, อเล็กซานเดอร์ ซง (แคเมอรูน), โคโล ตูเร (ไอวอรีโคสต์), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (โตโก)
- เทียร์รี อองรี เป็นนักฟุตบอลผิวดำคนแรกและคนเดียวที่มีรูปปั้นของตัวเองหน้าสนาม ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ของอาร์เซนอล
- ทีมฟุตบอล แอตแลนต้า ยูไนเต็ด สร้างสถิติมีผู้ชมเข้ามาในสนามเมอร์เซเดส เบนซ์ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์เมเจอร์ลีกซอกเกอร์ มากถึง 70,425 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหัศจรรย์มากสำหรับทีมฟุตบอลที่สามารถเรียกผู้ชมมาได้ไม่แพ้ แอตแลนต้า ฟอลคอนส์ ทีมอเมริกันฟุตบอล NFL